บ้านป้าLily หลังนี้เปิดไว้เพื่อให้เป็นที่ที่เพื่อนๆมานั่งตั้งวงคุยกันด้วยเรื่องที่เราชอบ
โดยมีป้า Lily มานั่งเล่าเรื่องที่ดีมีประโยชน์ แถมสนุกสนานให้ฟังอีก
วันที่ท้องฟ้าสดใสในเวลาแดดร่มลมตกไม่มีอะไรดีไปกว่าการมานั่งที่ ชานเรือนของบ้านป้าLily อีกแล้ว


ยินดีต้อนรับทุกท่านจ๊ะ

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

สวัสดีปีใหม่จากแดนไกล


สวัสดีปีใหม่ค่ะ ป้าLily และเพื่อนๆที่รัก

เข้าเว๊บไม่ได้อยู่หลายวันค่ะแต่คิดถึงเพื่อนๆ ทุก ๆ คนค่ะ หิมะเพิ่งจะละลายรอบที่สอง...
แต่ยังศูนย์องศา และลมแรงมาก ๆ ค่ะ
ขออย่าตกลงมาอีกรอบที่สามแล้วกันเจ้าค่ะ

เมื่อเช้าวันหนึ่ง เดินไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านเก่า ที่เป็นหมู่บ้านเก่าจริงๆ สมัยประมาณ ๑๕๐ ปีที่ผ่านมาค่ะ
ทางการไปรื้อถอนมาจากของจริง และประกอบใหม่ให้เห็นบ้านช่อง และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยโน้นค่ะ

พิพิธภัณฑ์เปิดอยู่สองวันก่อนช่วงคริสมาสต์ค่ะ เป็นวันที่อากาศหนาวแต่แจ่มใส มีแดดจางๆ แต่ลมเย็นยังยะยือก
ให้ผู้คนที่โดนลมพายุหิมะกระหน่ำมาก่อนหน้านั้นสามอาทิตย์ ได้ออกมามาเดินรับความหนาวเย็นกันค่ะ


ผ่านโรงเลี๊ยงสัตว์ของบ้านคนมีกะตังค์ จะมีโรงแยกต่างหาก ถ้าคนจนก็จะอยู่รวมกะสัตว์เลี๊ยง โดยเฉพาะห้องนอนติดคอกสัตว์เลย เพื่อได้รับไออุ่นจากสัตว์ด้วยพร้อมอยู่ใกล้ๆ ไม่ให้ใครมาขโมยเอาไป


เดินไปแต่เช้าก่อนสิบโมงนิดหน่อย เพื่อให้ทันกะรายการมีไกด์มาบอกเล่าประวัติความเป็นมาของบ้าน ห้าหลังที่จะเข้าไปดูค่ะ

ประวัติรายละเอียดที่ได้ฟังมาขออภัยไม่มีค่ะ ไม่ได้จดหรืออะไรเลย แค่ยืนฟังก็หนาวสั่นขาแข็ง มีรูปภาพให้ดูบ้าง ตามบรรยากาศค่ะ เพราะอยากจะบอกว่า แม้เตรียมพร้อม ทั้งเสื้อผ้า และรองเท้ายังหมดอยากที่จะถ่ายรูปค่ะ

เส้นทางที่เดินไปก็ลื่นมาก น้ำแข็งจับแขง อย่างกะลานเสก๊ต อิ ๆ สองคนกะเพื่อนเดินงุ่มง่ามกันไปอย่างช้า ๆ ถึงสถานที่เฉียดๆ เวลาพอดี รีบจ่ายเงินค่าเข้าชมสถานที่ไปคนละ ๑๕ ยูโรค่ะ



ส่วน เจ้าม้าตัวใหญ่นี้คงจะดุ และตัวโตมาก เป็นม้าใช้งาน ลากเกวียนใหญ่ๆ และสมัยก่อนไถนาด้วย ขนาดเท่าน้องช้างค่ะ เขาทำกั้นคอกเห็นแค่มันโผล่หัวยื่นปากมากินข้าวช่องโดยเฉพาะ ...เลยเดินมาข้างหลังถ่ายได้แต่บั้นท้ายค่ะ
นาน ๆ ครั้งจะได้เห็นตัวจริงม้า เอามาลากเกวียนบรรทุกเบียร์ค่ะ โหหห ...มัวแต่ตะลึงมองไม่เคยได้ทันถ่ายรูปค่ะ


แล้ว ก็ไถลดูคอกหมู เจ้าตัวนี้พระเอกค่ะ ขนสวยจริๆ ตัวใหญ่ยาวเกือบๆ สองเมตรค่ะ ไม่กล้าเข้าไปทักทายใกล้ๆ ค่ะ
เพราะพ่อคุณเอาหัวเข้ามาชนเลยค่



ตรงนี้ฟาร์มใหญ่บ้านคนรวยค่ะ ยืนกันหนาวสั่นงันงกสักยี่สิบนาที ก่อนได้เข้าไป สภาพบ้านทุกอย่างเมือนสมัยก่อน หลังคาเตี๊ยมาก ห้องแบ่งซอยเล็กๆ มีเตาพิงแบบเก่าแค่ห้องกลาง เตียงนอนเหมือนกล่องแคบๆ สั้นๆ ทำให้คิดว่าคนสมัยก่อนคงตัวไม่โตค่ะ ที่อุ่นๆ ของบ้านอีกที่คือห้องครัวค่ะ ...ไม่มีรูปรายละเอียด เพราะคนเข้าไปดูแยะมาก ค่อยๆ ก้มหัวเดินกันอย่างเรียร้อยจริงๆ ค่ะ เลยไม่ได้มุมถ่ายรูป ที่ต้องการ ..ไม่เป็นไร กะไปอีกครั้งช่วงหน้าร้อนค่ะ

เป็นโรงเตี๊ยมเก่า

ที่พักคนเดินทางสมัยโน้นค่ะ

รูปนี้จำไม่ได้ค่ะ


มีรถม้าให้นั่งด้วยค่ะ เขาจะพาผ่านไปทั่วหมู่บ้านเลย แต่คิวรอนั่งนานจัง ท้ายสุด ตอนที่กลับมา เห็นไม่มีคนแล้วเลยรอ หน่อย
เผื่อจะได้นั่งกะเค้าบ้าง วนๆ รอ แล้วหันไป อ๊าววว...จบรายการแล้ว พ่อม้าหนุ่ม อยู่ในคอก กำลังกินหญ้ากินฟางเพลินเลย

บ้านหลังนี้ เตี๊ยมากๆ เลยค่ะ ต้องก้มลอดประตูเข้าไป และก่อนอื่นฟังคำบรรยายของไกด์ก่อน ตรงนี้นานประมาณ ยี่สิบนาที
แต่ไม่มีใครบ่นเลย ยืนฟังด้วยความสนใจ ไกด์บอกเล่ารายละเอียด พร้อมธรรมเนียมตอนคริสมาสต์ของสมัยโน้นได้อย่างน่าฟัง
และน่าสนใจค่ะ


ตอนที่รอเข้าไปดูในบ้าน เลยเก็บรายละเอียดของตัวบ้านและหลังคาบ้านที่เป็นหลังคาหญ้าค่ะ เป็นหญ้าสำหรับทำคลุมหลังคาโดยเฉพาะ อายุอยู่ได้ถ้าจำไม่ผิด ยี่สิบปี แล้วต้องรื้อของเก่าที่ผุๆ เปลี่ยนใหม่ค่ะ ส่วนสันบนหลังคาเอาไม้พาดขัดเท่านั้นเองค่ะ



ในบ้านคงไว้สภาพแบบสมัยโน้น หนาวมากๆ ยังคิดว่าเขาอยู่กันได้อย่างไรหนอ ...ดีใจจังไม่ได้เกิดมาครั้งกระโน้น


นักเล่นดนตรีหาเงินประจำหมู่บ้านค่ะ

ส่งท้ายด้วยขนมช่วงคริสมาสต์ และผลไม้แห้งค่ะ

มี เดนนิชบอล


ข้าวเม็ดกลม ๆ ต้มนมใส่ครีมสดและซีอสเชอรี่

เยลลี่รสผลไม้


ผลมะเดื่อแห้ง


3 ความคิดเห็น:

  1. ช่วยสอนวิธีทำ เดนนิช บอล ด้วยเจ้าค่ะ อยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร อร่อยไม๊จ๊ะ

    ตอบลบ
  2. อิ ๆ ของอร่อย ต้องรอใจเย็นๆ ค่ะ ....ช่วงคริสมาสต์ที่ผ่านมา ทำทานเกือบจะทุกวัน จนพุงกลม เท่าเดนนิชบอลแล้วค่ะ ...ซู ค่ะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ22 มกราคม 2554 เวลา 04:36

    เข้าใจได้อารมณ์สัมผัสความหนาวเย็นเลยค่ะถ้าเป้นซัมเมอร์คงจะเดินเพลินอินกับบรรยากาศสมัยเก่าแต่ช่วงหนาวก็คงจะอินยะเยือกมากๆนะค่ะขอบคุณค่ะที่เก็บภาพมาฝาก/prikwhan

    ตอบลบ