บ้านป้าLily หลังนี้เปิดไว้เพื่อให้เป็นที่ที่เพื่อนๆมานั่งตั้งวงคุยกันด้วยเรื่องที่เราชอบ
โดยมีป้า Lily มานั่งเล่าเรื่องที่ดีมีประโยชน์ แถมสนุกสนานให้ฟังอีก
วันที่ท้องฟ้าสดใสในเวลาแดดร่มลมตกไม่มีอะไรดีไปกว่าการมานั่งที่ ชานเรือนของบ้านป้าLily อีกแล้ว


ยินดีต้อนรับทุกท่านจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

ก๋วยเตี๋ยวไหหลำ


       พออายุมากขึ้นชีวิตก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความทรงจำ โชคดีที่มีแต่ความทรงจำดีๆ เพราะเลือกเก็บแต่สิ่งดีไว้  สิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจไม่เก็บ ลืมได้เร็วมาก   ( ปีนี้ยังจำได้ ปีหน้าไม่แน่ว่าอาจลืมเพราะสมองเสื่อม)   
       
       วันนี้อยู่ดีๆก็นึกถึงก๋วยเตี๋ยวที่เคยกินสมัยเด็กขึ้นมาได้   ฉันเรียกก๋วยเตี๋ยวนี้ว่า” ก๋วยเตี๋ยวไหหลำ”   เพราะมันเป็นก๋วยเตี๋ยวที่คนไหหลำทำกินกันในบ้าน  ชื่อของมันจริงๆไม่มี  หรือเพราะเราอาจไม่รู้ชัด   รู้แต่ว่ามันมีความหมายอยู่ในความทรงจำของฉันอย่างยิ่ง


      ตอนฉันเป็นเด็ก  เตี่ยต้องเปลี่ยนอาชีพจากเถ้าแก่โรงไม้  (เจ้าของร้านขายไม้แปรรูป) เจ้าเดียวของอำเภอ มาเป็นชาวสวน ชาวนา  ด้วยความจำเป็น  ไม่ใช่เพราะบ้านเราตกต่ำย่ำแย่ หรือหมดตัว  แต่เตี่ยจำต้องทิ้งอาชีพที่คิดว่าจะทำให้เราร่ำรวยไป  เพื่อคงความสุขสงบของครอบครัว และความปลอดภัยของลูกๆ  เนื่องจากสมัยนั้นการแข่งขันทางธุรกิจมักจบลงด้วยการเอาชีวิตทั้งตัวคู่แข่งขัน และครอบครัว

      
       นอกจากเตี่ยจะเปลี่ยนอาชีพแล้ว พวกเราเด็กๆก็ต้องถูกส่งไปเข้าโรงเรียนประจำในกรุงเทพฯจนจบ  แทบไม่มีโอกาสกลับบ้านเลย  ดังนั้น ช่วงเวลาหนึ่งที่มีความสุขในชีวิตฉันคือ  ช่วงวันปิดเทอมที่เตี่ยรับเรากลับบ้าน  และมาช่วยเตี่ยทำไร่ส้ม    ที่จริงแล้วฉันแทบไม่มีประโยชน์เลยในการมาไร่กับเตี่ย  เพราะทำอะไรไม่เป็นเอาเสียเลย  ผิดกับพี่ชาย และน้องชาย ที่สามารถช่วยเตี่ยดูแลต้นส้มในสวนได้บ้าง   แม้จะไร้ประโยชน์  แต่ฉันและพี่น้องต่างก็มีความสุขกันมากที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน  น่าสงสารพี่ชายกับน้องชาย ที่ต้องละเลิกการยิงหนังสติ๊ก  ยิงนก ตกปลา ของวัยเด็กมาอยู่ข้างๆเตี่ย 


        ฉันจำได้ว่า ความที่มีแม่เป็นช่างตัดเสื้อ ฉันจึงมีชุดกระโปรงบานใส่ให้เด็กอื่นในอำเภออิจฉา  ไม่เว้นแม้จะไปทำไร่กับเตี่ยฉันก็ยังแต่งตัวสวยทุกวัน  บรรดาคนงานลูกน้องที่มาช่วยเตี่ยทำไร่  คงเห็นฉันเป็นคุณหนูที่น่าหมั่นไส้ยิ่งนัก   หน้าที่ของฉันคือการช่วยเตี่ยทำอาหารกลางวันสำหรับพวกเราและคนงาน  โดยทุกคนจะกินอาหารแบบเดียวกัน หม้อเดียวกัน นั่นคือ “ ก๋วยเตี๋ยวต้ม”


        เตี่ยจะซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยว  หมูสามชั้น  ผักกาดดอง  ต้นหอม  ผักชี  ตั้งฉ่าย ตั้งแต่เช้ามืดทุกวัน  โดยไม่ลืมที่จะคว้าหม้อกระเทียมเจียว และขวดพริกไทยใส่รถมาด้วย   พอถึงเวลาใกล้เที่ยง ท่านก็จะลงมือติดไฟในเตาอั้งโล่   หยิบหม้ออลูมิเนียมใบโตมาใส่น้ำลงไปตั้งให้เดือด  นำหมูมาสับให้เป็นบ่ะช่อ  หั่นผักกาดดองให้เป็นเส้นเล็กๆ    ส่วนหน้าที่ล้างต้นหอมผักชี เป็นของฉัน  จากนั้นเตี่ยก็จะต้มก๋วยเตี๋ยวที่แสนอร่อยนี้


        พอก๋วยเตี๋ยวเสร็จ  ได้เวลาพักเที่ยง  เตี่ยจะส่งเสียงเรียกทุกคนให้มากินกัน  คนงานพากันไปล้างหน้าล้างตา  ส่วนน้องชายฉันกลับมาด้วยเนื้อตัว หน้าตามอมแมม  พี่ชายก็เหงื่อโทรมกาย  ทุกคนต่างหิวโซ  ฉันถือชามก๋วยเตี๋ยวที่ซ้อนกันเป็นแถวสูงไปแจกทุกคน  พร้อมช้อนสังกะสีเคลือบ  เตี่ยจะตักก๋วยเตี่ยวให้ลูกๆก่อน แล้วก็ตักให้ตัวเอง  จากนั้นบรรดาคนงานก็จะเรียงแถวกันมาตักให้ตัวเองกิน  ชามแล้วชามเล่า อร่อยกันจนก๋วยเตี๋ยวหมดหม้อ  เด็กๆอย่างเรายังใช้ตะเกียบไม่เป็นจึงกินจากช้อนสังกะสี  แต่เตี่ยใช้กะเกียบพุ้ยก๋วยเตี๋ยวเข้าปากอย่างรวดเร็ว  โดยไม่กลัวความร้อนของมัน


        หลังจากกินเสร็จคนงานก็ล้างชามของตัวเอง และต่างก็แยกตัวไปหาที่นอนงีบกันคนละมุม  หน้าที่สำคัญที่น่าภาคภูมิใจของฉันอีกอย่างคือ การนำชามก๋วยเตี๋ยวของเตี่ยและพี่น้อง รวมทั้งหม้อก๋วยเตี๋ยว ลงไปยังท่าน้ำริมแม่น้ำเพชรบุรี  เพื่อล้างเก็บไว้ใช้ในวันต่อไป  รู้สึกว่าตัวเองช่างมีประโยชน์เหลือเกิน


        เหตุการณ์แบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก  เพราะฉันมีโอกาสกลับบ้านน้อยมาก  แต่บรรยากาศความสุขขณะนั้น ไม่เคยลืม  โดยเฉพาะ “ ก๋วยเตี๋ยวต้ม” ของเตี่ยยังเป็นอะไรที่โหยหาเสียจริง  และก็แปลกที่แม้เราจะทำกินบ่อยๆที่บ้าน ก็ไม่อร่อยเท่าที่เตี่ยทำให้กินในไร่  เพราะความสุขอยู่ที่เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน ซึ่ง ....นั่นมัน 50 กว่าปีแล้วนะ


      หากถามคนไหหลำในอำเภอท่ายางบ้านฉันว่ารู้จักก๋วยเตี๋ยวชนิดนี้หรือไม่  คนไหหลำรุ่นอายุเกิน 60 ปีจะตอบว่ารู้จักแน่นอน  นอกจากจะตอบแล้วหลายคนยังมีรอยยิ้มและแววตาแห่งความคิดถึงรสชาติของมัน
     แต่เด็กรุ่นใหม่ทุกคน 100% ทำหน้างงๆ พร้อมถามว่า “ มีงี๊...ด้วยหรือป้า ?“  และนี่คือเหตุผลที่วันนี้ ฉันต้องลุกขึ้นมาทำ “ ก๋วยเตี๋ยวต้ม” ของคนไหหลำให้เด็กๆดู  พร้อมย้ำว่า “ อย่าลืมทำให้เพื่อนๆกินนะ เขาจะได้รู้จักก๋วยเตี๋ยวของเรา “ 

 ทุกครั้งที่ไปเกาะไหหลำ ฉันจะกินก๋วยเตี๋ยว หรือขนมจีนไหหลำ ที่เรียกว่า เป้า โล ฝั่น  ที่แปลว่า ก๋วยเตี๋ยวจากเมืองเป้าโล ที่เรียกอย่างนี้เพราะ เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงและมีต้นกำเนิดมาจาก เมืองเป้าโล  อันเป็นเมืองหนึ่งของมณฑลไหหนาน นั่นเอง

     ลักษณะของ เป้า โล ฝั่น" คือ ใช้เส้นหมี่ที่ทำด้วยแป้งข้าวเจ้าเส้นโต คล้ายเส้นอุโด้ง ของญี่ปุ่น  ปกติจะใช้เนื้อวัวสดหั่นเป็นเส้นยาว หรือไม่ก็เนื้อวัวตุ๋น (คนจีนในประเทศจีนกินเนื้อวัว แต่คนจีนในไทยไม่กิน)  ราดด้วยน้ำตุ๋นหรือน้ำเกรวี่สีน้ำตาลเข้ม  เหนียว มีรสเค็ม และหวานเล็กน้อย  ที่ขาดไม่ได้คือต้องโรยด้วย ถั่วลิสงคั่ว กับ ผักกาดดองซอย

   
    นอกจาก เป้าโลฝั่น แล้ว ยังมี“ เยียน เหมี่ยนคือบะหมี่ แห้งปรุงรส มีเนื้อหมูหั่นเป็นเส้นอยู่ด้านบน โรยด้วยถั่วลิงสงคั่ว และผักกาดดองซอย เรื่องถั่วลิสงคั่ว กับผักกาดดองซอยที่โรยหน้ามา เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวของไหหลำ  
 
 ส่วนก๋วยเตี๋ยวน้ำทั่วไปก็มีลักษณะเหมือนที่เรากำลังจะทำในวันนี้   โดยมีกรรมวิธีที่ต่างจากคนไทย  ตรงที่เขาจะใช้วิธีต้มเส้นก๋วยเตี๋ยว แทนการลวกแบบบ้านเรา  อีกชนิดคือก๋วยเตี๋ยวผัด ที่หน้าตาเหมือนผัดไทยบ้านเรามาก เพียวแต่รสไม่หวานเท่านั้นเอง   คนไหหลำกินก๋วยเต๋ยวอย่างนี้มาก โดยเฉพาะการใส่ถั่วคั่ว   และผักกาดดอง จะเห็นว่าคนไหหลำกินผักกาดดองกับก๋วยเตี๋ยวทุกชนิด  และไม่ค่อยเห็นผักกาดดองในมณฑลอื่น 





วันนี้ฉันชวนหลานๆมาทำ “ก๋วยเตี๋ยวต้ม ผักกาดดอง” กินกันที่บ้าน


โดยมีเครื่องปรุง ดังนี้  …….


เส้นก๋วยเตี๋ยวแบบโบราณ เป็นเส้นขนาดกลาง 
ไม่ใช่เส้นฝอยแบบเส้นจันทร์ 

 เนื้อหมูปนมันเล็กน้อยสับแบบบะช่อ  ไม่ต้องใส่กระเทียมในหมู
 แต่หากชอบใส่ก็ไม่ว่ากัน 

 ผักกาดดอง ล้างให้สะอาดหั่น ตามขวาง เป็นเส้นฝอย


 ตั้งฉ่าย   ต้นหอม ผักชีซอย กระเทียมเจียวตามชอบ  พริกไทยป่น
พริกดองสำหรับเติมรสเผ็ด ตามชอบ


 จะเห็นว่าไม่ใส่ถั่วงอก ( ที่ไหหลำก็ไม่ค่อยเห็นถั่วงอกนะ) 

 และไม่ใส่น้ำปลา หรือซีอิ้ว แต่บางคนที่ชอบรสเค็มก็เตรียมไว้ได้



ลงมือทำ

 ตั้งหม้อใบโต  ใส่น้ำซุบ รอให้เดือด

 ใส่หมูสับลงไป  คนให้หมูแตกกระจายในน้ำซุบ

 ใส่ผักกาดดองหั่น ลงไปต้มให้เดือดสักพัก 
เพื่อให้รสของผักกาดดองออกมาอยู่ในน้ำซุป

 ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว ลงไปต้มให้เดือด   


 ใส่ตั้งฉ่าย   ปิดไฟเตรียมตักใส่ชาม

โรยพริกไทย ต้นหอม ผักชี  กระเทียมเจียว ตามชอบ

 ชิมดูจะพบว่า น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวจะเค็มอ่อนๆ เพราะความเค็มของผักกาดดอง กับตั้งฉ่าย  มีความหวานจากน้ำซุบ และหมูสับ  อร่อยโดยไม่ต้องเติมรสอื่น  เวลากินพร้อมกับผักกาดดองแล้วอร่อยชื่นใจจริงๆ

แต่สำหรับคนชอบอาหารรสจัด ก็เชิญใส่เครื่องเติมตามถนัด   ลองทำดูนะคะ อาจเป็นอาหารประจำบ้านชนิดใหม่ที่ทำได้ง่ายๆแบบเหลือเชื่อเลยล่ะ  ...

 าถึงของหวาน.....ไหนๆก็กินของโบราณแล้ว  
วันนี้หลาจึงทำ “จ้ำบ๊ะ”  ให้ป้ากิน ด้วยการ

-เอาขนมปังเก่าๆมาปิ้งไฟให้หอม   หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 1 นิ้ว

-วางขนมปังลงในถ้วยขนม  โรยด้วยน้ำแข็งใส

-ราดด้วยน้ำหวานเฮลส์บลูบอย (ของแท้ต้องสีแดง สีอื่นไม่อร่อย)

-ราดหน้าด้วยนมข้นหวาน  อร่อยชื่นใจจริงๆ

แต่ถ้าจะให้ดี หากมีปาท่องโก๋เก่าๆ นำมาย่างไฟใช้แทนขนมปังก็จะสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง


อร่อยจัง ตังต์อยู่ครบ.............

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 มีนาคม 2556 เวลา 17:52

    ไม่เคยชิมแต่เห็นเครื่องแล้วน่าอร่อย
    จ้ำบะชอบมากอะค่ะ

    ตอบลบ