บ้านป้าLily หลังนี้เปิดไว้เพื่อให้เป็นที่ที่เพื่อนๆมานั่งตั้งวงคุยกันด้วยเรื่องที่เราชอบ
โดยมีป้า Lily มานั่งเล่าเรื่องที่ดีมีประโยชน์ แถมสนุกสนานให้ฟังอีก
วันที่ท้องฟ้าสดใสในเวลาแดดร่มลมตกไม่มีอะไรดีไปกว่าการมานั่งที่ ชานเรือนของบ้านป้าLily อีกแล้ว


ยินดีต้อนรับทุกท่านจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Putrajaya



ไปมาเลเซียคราวนี้ เราโชคดีที่มีโอกาสได้แวะไปเมือง Putrajaya ซึ่งอยู่ระหว่างทางจาก KL. ไป สนามบิน KLIAด้วย 
เพื่อนชาวมาเลย์ เรียก เมือง Putrajaya ว่าเป็นเมืองหลวงใหม่  แต่ฉันคิดว่า น่าจะเรียกว่า " ศูนย์ราชการ" มากกว่า เพราะพระราชวังของพระราชาธิบดี ยังอยู่ใน KL  ย้ายมาแต่ที่ทำการของส่วนราชการเท่านั้น 
ที่จริงบ้านเราน่าจะทำอย่างนี้บ้างนะ เพราะการสร้างใหม่   อาคารทุกกระทรวง จะได้อยู่บนถนนเส้นเดียวกันหมด เวลาไปติดต่อหลายๆกระทรวงจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล ง่ายดี


เมือง Putrajaya  อยู่ห่างจาก KL ประมาณ 2 ชั่วโมง  สร้างบนพื้นที่ที่เป็น สวนปาล์มมาก่อน  เป็นพื้นที่สูงอยู่บนเขา โอกาสน้ำท่วมแทบไม่มี 
พื้นที่ ที่ตั้งเมืองนี้อยู่ในรัฐสาลังงอ  ดังนั้น เพื่อเป็นการชดเชยให้เจ้าของที่ดิน  ทางการจึงต้องสร้างพระราชวังใหม่ ( เพิ่มขึ้น) ให้แก่สุลต่าน แห่งรัฐสาลังงอ  ไว้ที่ริมทะเลสาบบนยอดเขา ใกล้มัสยิดหลวง  เป็นสถานที่ที่สวยงามมาก หากสังเกต จะเห็นธงประจำพระองค์สุลต่าน อยู่ที่ยอดเสาธง แสดงว่าท่านประทับอยู่ที่นี่ 


  
ตรงข้ามกับพระราชวังของสุลต่านสาลังงอ ก็เป็นมัสยิดกลาง สีชมพู สวยงามและใหญ่โตมาก  


เนื่อง จากเป็นเมืองใหม่ ผังเมืองจึงออกแบบได้อย่างเป็นระเบียบ สวยงาม และง่ายต่อการคมนาคม  โดยจะมีถนนเส้นหลักอยู่กลางเมือง  สองฝากถนนจะเป็นที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ  ปลายด้านหนึ่งของถนน เป็นที่ตั้งของทำเนียบรัฐบาล ( เห็นเป็นโดมสีเขียว ท้ายถนน) 


ทำเนียบรัฐบาลที่งามสง่าด้วยสถาปัตย์กรรมแบบมาเลย์


หน้าประตูที่ดูดีด้วยความใหม่ 


การ สร้างเมืองนี้ รัฐบาลมาเลเซีย ไม่ต้องใช้เงินสร้างเลยสักริงกิตเดียว  เพราะเขาใช้วิธีเปิดประมูลว่า เอกชนบริษัทใดต้องการที่ตั้ง และอาคารกระทรวงเก่าใน KL หลังไหน ก็เอาไปเลย  แต่ต้องมาสร้างอาคารกระทรวงนั้นให้ใหม่ตามที่ทางการได้ออกแบบไว้แล้วที่ เมือง Putrajaya แทน

นอกจากกระทรวงต่างๆแล้ว ยังมีคอนโดที่พักของข้าราชการ ที่ให้คนทำงานที่นี่พักฟรี   มีห้างสรรพสินค้าเล็กๆไว้ให้ข้าราชการมาซื้อของ  มีร้านอาหารหลายประเภท รวมทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาวไว้คอยต้อนรับแขกของรัฐบาลทุกระดับอีกด้วย

สุดปลายถนนด้านตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล จะเป็นที่ตั้งของรัฐสภา ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่เป็นจุดที่สูงที่สุดของเมือง 

เมื่อมองจากถนนจะเห็นหลังคาของรัฐสภา เป็นรูปคล้ายนกอินทรีย์ ซึ่งเป็นสัญยลักษณ์ของประเทศ กางปีกอยู่บนนั้น

อาคารรัฐสภา สร้างเป็นรูปนกอินทรีย์กางปีก 
 มองลงมาจากอาคารรัฐสภา จะเห็นทำเนียบรัฐบาลอยู่ปลายถนน สร้างตรงกันแป๊ะเลย

 พาเที่ยวเมือง Putrajaya แล้ว ก็หิวพอดี นึกมาได้ว่า ช่วงเที่ยวมาเลเซียครั้งนี้ 
มีอาหารจีนที่เราติดใจกันมากอยู่ด้วย 

เป็นร้าน " บากุ๊ดเต๋" เจ้าอร่อย ในตัวเมือง KL. ชื่อ SUN FONG BAK KUT TEH 
ลองชิมกันหน่อยไม๊คะ
จานแรกเป็นปลาราดซ๊อสเต๊าซี่ ที่รสเข้มข้นมาก แม้อิฉันจะไม่ชอบปลา
แต่ก็ซัดน้ำเต้าซี่อย่างเอร็ดอร่อย 


จานที่สองเป็นเต้าหู้ทรงเครื่อง แอบเห็นโต๊ะข้างๆสั่งเลยสั่งมาบ้าง เต้าหู้นุ่มอร่อยมากจริงๆ
มาถึงพระเอก ของร้านนี้คือ บากุ๊ดเต๋  แบบน้ำ ที่หอมเครื่องเทศมาก แต่ทางร้านเขาจะใส่หมูแบบไม่ได้เคี่ยวเปื่อยมาด้วย ซึ่งน่าจะเป็นความนิยมของลูกค้าที่นี่ก็เป็นได้  เราก็จัดการกันเรียบวุธ 
เหลือบ ไปเห็นรูปที่ป้ายเมนูอันใหญ่ เขียนไว้ว่า เป็นบากุ๊ดเต๋แห้ง เลยลองสั่งมาชิม  อุแม่เจ้า อร่อยอย่างยิ่ง เลยต้องสั่งมาเพิ่มอีก 1 หม้อ   จานนี้ชอบตรงที่เขาใส่ปลาหมึกแห้งฉีกเป็นเส้นๆลงไปเคี่ยวด้วย เวลาเคี้ยวทั้งนุ่มทั้งหนึบๆ อร่อยสุด  วันนี้เรากินข้าวกันจนพุงกาง  คราวหน้าต้องแวะไปอุดหนุนอีกเป็นแน่

พูดถึงอาหาร ขอย้อนกลับไปเล่าเรื่องข้าวมันไก่ที่มะละกาสักหน่อย ที่จริงหากมาเมืองมะละกาในวันหยุด ต้องทำใจไว้มากๆ  เพราะร้านอาหารในมะละกา ช่วงวันหยุดจะมีคนรอคิวยาวเหยียดทุกร้าน 

เราตั้งใจออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อไปทานข้าวมันไก่ ซึ่งมีหลายร้าน 
เราเดินอย่างภาคภูมิใจว่ามาแต่เช้าตรู่ คงเป็นคนแรกที่ได้ทานข้าวมันไก่
แต่เมื่อมาถึงหน้าร้าน พบว่ามีคนมาก่อนเราอีก และร้านยังไม่เปิด 
เราจึงต้องต่อแถว เป็นคนที่ 60 


 พอได้เวลา 8.00 น. ประตูแคบๆของร้านก็เปิดออก 
พนักงานออกมานับคนและต้อนเข้าร้านตามจำนวนที่นั่งที่มี
กลุ่มของเราโชคดีมากที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าไปทานเป็นชุดสุดท้าย
พออิฉันเดินผ่านประตู พนักงานก็ลากประตูปิดใส่กุญแจทันที
แถมยังเอาจักร์ยานมากันคนอีกด้วย เรียกว่า ห้ามเข้า ห้ามออกกันเลย ต้องรอให้อิ่มจึงจะออกไปได้   ถ้าออกไป3 คน ก็จะเรียกเข้ามาใหม่อีก 3 คนค่ะ   อร่อยแบบขำๆอ่ะ 


 ชื่อร้านค่ะ



ทางร้านเตรียมปั้นข้าวมันเป็นลูกกลมๆคล้ายลูกปิงปองไว้แล้ว  
จานละ 5 ลูก ไม่ต้องสั่ง นำมาให้ทุกคนเหมือนกัน


ข้าวมันไก่มาแล้วค่ะ เราสั่งไก่เพิ่มเป็น 2 จานเลยค่ะ

ช่วงบ่ายเราเดินผ่านทางนี้อีก  คิวก็ยังสภาพเยี่ยงนี้ อดทนกันจัง 
มองไปอีกร้านซึ่งเป็นร้านข้าวมันไก่ที่ชอบมากชื่อ HONG KEE 
ร้านนี้เปิดสายเราเลยอดทาน ดูคิวช่วงกลางวันก็พอกับร้านแรกเลย

ช่วงบ่ายพาลูกทีมเดินไปหาเค็กอร่อยๆทานด้วยความหวังล้นเปี่ยม
ร้านนี้ชื่อ NADEJE  แต่พอเจอฝูงมวลชนประมาณนี้ 
เราเลยถอยกลับไปหาสตาร์บัค ทานแบบกันลงแดงไปก่อน
นี่คือขนมที่อยากให้เพื่อนๆชิม อร่อยมากขอบอก ( คราวที่แล้วได้ทาน)
เอาไว้คราวหน้าต้องไปทานให้ได้ค่ะ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น