ปีใหม่ คิดใหม่ ฝันใหม่ ความสุขใหม่ๆ

อาจจะดูเร็วสักนิดสำหรับคำอวยพรปีใหม่  แต่อยากจะคุยส่งท้ายปี 2554 ไว้แต่เนิ่นๆ  ด้วยการนำแนวความคิดที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆในอนาคต หรือปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้  ความดีที่ว่านี้   อาจไม่ใช่วันนี้  ไม่ใช่อ่านแล้วดีขึ้นเลย  เพียงแต่อยากให้เก็บสะสมไว้ในหัวใจ  เมื่อถึงวันที่สมควรนำมันออกมาใช้  ก็จะมีประโยชน์อย่างมาก  หากนึกได้ก็อย่าลืม..... 

รูปภาพที่จะเห็นต่อไป  เป็นรูปที่ฉันถ่ายสะสมไว้  ส่วนเนื้อหาที่พิมพ์บนภาพ เป็นคำแนะนำดีๆที่ได้รับจาก Forward Mail ซึ่งได้รับมามากมาย แต่เลือกที่จะเก็บ หรือแม้แต่ อ่านก็เลือกอ่านที่มีประโยชน์ต่อความคิดด้านดีเท่านั้น ( มี Mail มากกว่า 500 ฉบับที่ไม่ได้เปิดอ่านเพราะเป็นเรื่องเครียดๆ)  คงต้องขอบคุณผู้ส่ง และผู้เริ่มต้นทำเมล์ดีๆส่งต่อกันมา ขอบคุณที่ช่วยแนะนำสิ่งดีให่คนอื่นได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

สิ่งที่นำมาให้อ่านวันนี้ เป็นคำแนะำนำ 40 ข้อ เพื่อชีวิตที่มีความสุขของคุณ  ฉันเองทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็รู้สึกว่า มันจริงทีเดียว ลองอ่านดูนะ หากดีต้องบอกเพื่อนๆต่อไปด้วย คนทุกข์ใจจะได้สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้เสียที

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในปี 2555 ค่ะ

ขออนุญาติคุยเป็นภาษาไทยเพิ่มด้วยแนวความคิดของตัวเอง
ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับบางท่าน ก็ขออย่าได้ถือสา
เก็บแต่ข้อความดีๆที่ตรงใจไปก็แล้วกัน

1. เดินให้ได้อย่างน้อยวันละ 10 ถึง 30 นาที และเวลาเดินอย่าลืมยิ้มให้ทั้งผู้อื่นและตัวเองด้วย ลองนึกถึงเรื่องดีๆ ขำๆในใจ แล้วคุณจะเดินยิ้มไปตลอดทาง  อย่าอายใครเลย ความสุขของเรา ชีวิตของเรา

 

2.นั่งเงียบๆสัก10นาที ทุกวัน  หากมีคนรบกวน คงต้องแอบเข้าห้องไปอยู่เงียบๆบ้าง 

ข้อนี้ฉันไม่ต้องตั้งใจทำ  เพราะเป็นนิสัยประจำของฉันที่จะนั่งคิดอะไรเงียบๆคนเดียวเสมอบางครั้งเวลาต้องนั่งฟังคนพูดไม่หยุด ถือเป็นวันที่โชคร้ายมาก  หลายคนตัดสินว่าฉันมีอารมณ์ติสสส สูง แต่การอยู่คนเดียว เป็นความสุขและ ทำให้ฉันมีเวลาคิดอะไรๆได้มาก มายทีเดียว

3. ฟังเพลงทุกวัน เพราะมันคืออาหารของจิตวิญญาน เรื่องนี้จริงอย่างยิ่ง เพราะการฟังเพลง ช่วยให้สมองสร้างความคิดดีๆออกมานับไม่ถ้วน  ส่วนประเภทของเพลงก็อยู่ที่รสนิยมของคน  ฉันเคยพยามฟังเพลงที่ไม่ใช่เพลงของฉันบ้าง  เพื่อ Exercise สมอง แต่ก็กลายเป็นการทำร้ายสมองมากขึ้น ยิ่งฟังยิ่งปวดสมอง โดยเฉพาะเพลงคาราโอเกะ 

4.เคยมีน้องๆถามเสมอว่า ไม่รู้สึกเบื่อกับการทำงานบ้างรึไง  คนอื่นเขาเลิกไปหมดแล้ว  อะไรทำให้พี่ยังคง ทำงานเหมือนสนุกสนานอย่างนี้ิื 

  คำตอบคือ ทุกเช้าเมื่อฉันตื่นขึ้นมา  ฉันจะยิ้มและบอกตัวเองว่า ยังมีคนเห็นคุณค่าของฉัน และกำลังรอที่จะพบฉันมากมาย  วันนี้ฉันจะต้องทำประโยชน์ให้คุ้มกับการรอคอยของเขา

ลองทำดูบ้างซิ  คุณจะมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น  อ้อ ! อย่าลืมยิ้มให้กับตัวเองด้วยนะ

5.ใช้ชีวิตด้วย 3 Es

    - Energy ใช้ชีวิตอย่างมีพลัง  (บางคนมีอาการบ้าพลัง คงไม่ต้องถึงขนาดนั้น)

    - Enthusiasm   กระตือรือร้น ตั้งใจทำอย่างจริงใจ หรือมีศรัทธาในสิ่งที่ทำ

    - Empathy   ไม่ลืมที่จะมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นด้วย

6.อ่านหนังสือมากขึ้นทุกปี  ดิฉันไม่ได้นับว่าอ่านปีละกี่เล่ม และอ่านเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะมันปวดหัวที่จะนับ  เอาเป็นว่า  ทุกครั้งที่เจอหนังสือน่าสนใจก็จะอ่านทันที  และมักใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือนานกว่าร้านอื่นๆ  นอกจากนั้นยังมีหนังสือไว้ในครอบครองพอสมควร  ที่ชอบทำมากคือ ชอบแกะถุงกล้วยแขกอ่านบ่อยๆ  ไม่รู้เป็นอะไร

7.หลายครั้งที่นั่ง หรือนอนเงียบๆแล้วมองท้องฟ้า พร้อมกับบอกตัวเองว่า โลกของฉันช่างวิเศษสุดอะไร เช่นนี้  แต่เพื่อนๆมักมองว่าฉันมีพื้นที่ส่วนตัวสูงไปหน่อย 

ก็ฉันชอบของฉันอย่างงี้นี่นา....มันมีความสุขนะ ไม่เชื่อลองแหงนหน้ามองท้องฟ้าดูบ้่างซิ !!

8.คนเรามันก็ต้องมีความฝันกันบ้าง ไม่ใช่ฝันตอนหลับนะ แต่ฝันหวานตอนตื่นนี่หละ มันเป็นการสร้างความคิดดีๆ และสร้างความสุขที่อาจจะยังมาไม่ถึงในวันนี้ได้   เรียกว่าใช้ความสุขของอนาคตไปล่วงหน้าก่อน  ใครๆก็ทำได้  

9.แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า อาหารหน้าตาดีๆ อร่อยๆที่ซื้อหาได้ตามร้านแพงๆ หลายชนิดเป็นอาหารทำลายสุขภาพ ฉันเป็นคนชอบทำอาหารกินเองนะ อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเรากำลังกินอะไรเข้าไป และดีใจที่ตัวเองเชื่อในเรื่องอาหารจากธรรมชาติ  ก็คงป้องกันตัวเองได้ระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับเต็มร้อย แค่นี้ก็เก่งแล้ว 

10.เขาแนะนำให้กินผลไม้จำพวกเบอร์รี่ ถั่ว ชาเขียว  น้ำเปล่า และไวน์วันละแก้ว  ข้อนี้ทั้งที่รู้ว่ามันน่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่บางอย่างก็ยังทำไม่ได้  บอกได้เลยว่าไม่ชอบกินถั่วทุกชนิด ยกเว้นถั่วแดงกวน( ไส้ขนมที่โดราเอมอน ชอบกินน่ะ) 

ดูเหมือนว่าเขาจะเน้นไปในเรื่องดื่มไวน์นะ  ก็เอาล่ะ ท่านที่ดื่มไวน์ได้ ก็อย่าลืมชนแก้วไชโยกับคนที่คุณชื่นชอบด้วยล่ะ สุขภาพจิตจะได้ดีขึ้นด้วย  ย้ำ ....วันละแก้วนะ

11. ข้อนี้ดีจัง จงทำให้คนยิ้มให้ได้วันละ 3 คนเป็นอย่างน้อย  อันนี้สบายมาก และก็ดีต่อตัวเองด้วย เพราะเวลาทำให้คนอื่นยิ้มหรือหัวเราะ เราก็ต้องยิ้มไปกะเขา กล้ามเนื้อบนใบหน้าจะได้บริหาร  ช่วยชลออาการ หน้าเหี่ยวให้ช้าลงเล็กน้อย

12. สะสางโต๊ะทำงานรกๆ บ้านรกๆ  เสียบ้าง ฉันเป็นคนนิสัยเสียมากเรื่องนี้ เพราะเป็นคนเสียดายไปหมดทุกอย่าง ห้องและบ้านจึงรกพอๆกับโกดังเก็บของ  พอถึงเวลาฤกษ์งามยามดี ก็โล๊ะทิ้งกันหน่อย  เพื่อเปิดโอกาสให้สิ่งดีๆได้เข้ามาในชีวิตเราบ้าง  โดยถือเกณฑ์ว่า หากของชิ้นใดที่ไม่เคยหยิบจับมาภายใน 6 เดือน ก็เข้าข่ายโยนทิ้งได้แล้ว  

แต่เชื่อเถอะ  ทันทีที่เราทิ้งหรือให้ใครไป อีกสักสองสามวัน เราจะมีเหตุต้องใช้เจ้าของสิ่งนั้นทุกทีไป  (ยกเว้นแฟนเก่านะ  ทิ้งแล้วทิ้งเลย  )

13. ข้อนี้ดีมาก อย่าเสียเวลาที่มีค่าของคุณไปกับการนินทาว่าร้ายผู้อื่น  

หรือ มัวแต่เศร้าเสียใจไปกับความล้มเหลวที่ผ่านมาในชีวิต 

หรือ คิดถึงเรื่องต่างๆ และผู้อื่น ในทางลบ อย่ามองเห็นแต่เรื่องร้ายๆ พูดแต่เรื่องร้ายของคนอื่น

และ อย่ากังวล  หรือเครียดไปกับเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม ที่ไม่เกี่ยวกะคุณ  

มีหลายคนที่เป็นอย่างนี้  ชีวิตจึงมีแต่ความทุกข์  เพราะมัวแต่มองคนอื่นด้วยสายตาที่จับผิด  มองเห็นแต่ความผิดพลาด หรือข้อด้อยของคนอื่น  เวลาพูดถึงใครสักคน ก็มักจะเลือกพูดแต่เรื่องร้ายๆของคนนั้น 

หากคุณเป็นเช่นนี้ ผลที่จะเกิดกับคุณคือ คุณจะมีชีวิตที่จมอยู่ในความทุกข์  คุณจะมีแต่ความริษยาอยู่ในใจ  เวลาคุณพูดถึงเรื่องไม่ดีของคนอื่น คนฟังเขาก็จะเบื่อ และจากคุณไป  คุณคงหาเพื่อนดีๆได้ยาก ชีวิตคงเหงาน่าดู   มองโลก มองคนอื่นในแง่ดีเถอะ  สบายใจกว่ากันเยอะเลย

14.ชีวิตคือโรงเรียน เราเกิดมาเพื่อเรียนรู้ไปเรื่อยๆทุกวันไม่มีปิดเทอม 

ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นเพียงบทเรียน แก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง 

วันนี้ตอบผิด ก็ต้องจำเอาไว้ ว่าคราวหน้าต้องไม่พลาดอย่างนี้อีก

เราต้องอยู่ในโรงเรียนกันทุกคน   อย่าน้อยใจไปเลย หากจะต้องมีบทเรียนหลายบท 

คุณไม่รู้หรอกว่า หลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตน่ะ เขาอาจจะสอบตกมาครั้งแล้ว ครั้งเล่า แต่เขาก็ยังไม่เลิกเรียน

15. กินอาหารเช้าแบบพระราชา/พระราชินี   อาหารกลางวันแบบเจ้าหญิง และอาหารเย็นแบบขอทาน  

นี่เป็นหลักการทางด้านสุขภาพ  หลายคนไม่เชื่อแนวคิดนี้ และปฏิบัติตรงกันข้าม ผลคือ โรคอ้วน และกรดไหลย้อน ++++ 

อันนี้ขอรับรองด้วยตัวเองเลย เพราะเป็นมาหมดแล้ว  ปัจจุบันจึงเปลี่ยนขั้วมาทำตามนี้  สุขภาพดีขึ้นมาก

16.นี่คือข้อเสียของฉัน เพราะฉันมีนิสัยขี้เก๊ก ( นิสัยเสีย)  ความที่ ระวังบุคลิกภาพเวลาอยู่ต่อหน้าผู้อื่นมากไป  เลยกลายเป็นคนพันธุ์ดุ (แบบตั้งใจ)  แต่วันนี้ฉันผ่อนคลายให้กับชีวิตมากขึ้น  หาหนังสือตลกๆมาอ่าน ดูหนังตลก ยิ้มกับผู้คนตลอดซอย  รู้สึกว่าชีวิตเบาขึ้นอย่างคาดไม่ถึง  

โถ...หลงแอ๊ค อยู่นาน เมื่อยหน้าจริงๆ

17.ข้อเสียข้อที่สองของฉัน คือไม่ค่อยแสดงออกถึงความรู้สึกกับใครเลย ( ก็บอกแล้วไงว่า ขี้เก็ก)  ฉันสะสมนิสัยเสียๆนี้มามากกว่า 50ปี  เรียกว่ามันซึมเข้ากระดูกไปแล้ว  คงไม่โทษวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ถูกเลี้ยงมา  ต้องโทษตัวเองสถานเดียว

 

ยอมรับว่า การกอดเป็นสิ่งที่มีค่าต่อจิตใจมาก  เพราะในขณะที่เรากอดใครไม่เป็น แต่เราก็โหยหาการกอดจากคนที่เราหมายปองอยู่บ่อยๆ  และธรรมชาติก็สร้างสมดุลให้เรา  ด้วยการไร้อ้อมแขนอันอบอุ่นจากคนอื่น  ถ้าคุณไม่รู้จักให้ คุณก็ไม่มีวันได้รับ  นี่คือสัจจะธรรมของชีวิต 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ ฉันกำลังพยายามดัดไม้แก่ท่อนนี้ อย่างยากเย็น  

ข้อแนะนำจากฉันคือ  แสดงให้คนที่คุณชื่มชอบ ชื่นชม รู้ว่า คุณรักเขา ห่วงใยเขา ด้วยกอดของคุณนะ  อย่าเสียเวลาอย่างฉัน 

18.ชีวิตมันสั้นเหลือเกิน  อย่าเสียเวลาไปกับการเกลียดกันเลย 

วิธีแก้ปัญหาของฉันคือ  พยายามมองข้ามสิ่งไม่ดีของคนอื่นไปบ้าง 

บอกตัวเองอยู่เสมอๆว่า ไม่มีใครได้ดั่งใจใคร เราอาจจะไม่ได้ดั่งใจคนอื่นอยู่ก็ได้ 

ถ้ามันเหนื่อยนักก็อยู่ห่างๆกันไปสักพัก รอให้สบายใจแล้วค่อยคุยกันใหม่
เวลาจะช่วยปรับปรุงชีวิตและหัวใจให้ดีขึ้นเอง

19.อย่าซีเรียส กับชีวิตมากนัก  เวลาไม่ได้ดั่งหวังก็จะทุกข์ใจเปล่าๆ   หาเวลาว่างพาตัวเองไปเที่ยว  หรือหางานอดิเรกทำให้เพลินๆก็ดีนะ  ลองใช้ชีวิตสบายๆดูบ้าง จะรู้สึกเบาสมองขึ้นเยอะเลย

20.เวลาพูดคุย หรือแสดงความคิดเห็น คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนถูกเสมอไป  หากคนอื่นๆคิดต่างจากคุณ ก็ต้องยอมรับในความคิดของส่วนรวม 

การอยู่ในวงสนทนาที่มีแต่คนเก่ง ไม่มีใครฟังใคร เป็นเรื่องน่าเบื่อ คนเก่งก็กลายเป็นคนน่าเบื่อไปด้วย  หากไม่อยากเป็นคนน่าเบื่อ ก็ต้องฟังคนอื่นบ้าง

21.อย่าเก็บเอาเรื่องเก่าๆมาคิดให้รกสมอง เพราะมันจะทำลายความสุขในชีวิตคุณ 

ฉันโชคดีที่ลืมง่าย ชอบเก็บแต่เรื่องดีๆไว้ให้สบายใจ  ชีวิตมันสั้นนัก อยู่อย่างมีความสุขดีกว่า

22. อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น  ในโลกนี้ และในชีวิตของคุณ มีทั้งคนที่ดีกว่า และด้อยกว่าเสมอ

อย่ามองเห็นแต่ความสำเร็จของคนอื่น  และก็อย่าเอาแต่คิดน้อยใจว่าทำไมฉันจึงไม่เป็นอย่างเขาบ้าง คุณไม่รู้หรอกว่า กว่าเขาจะเป็นได้เช่นนี้ ไม่ใช่เพราะโชคดีเสมอไป เขาอาจจะล้มลุกคลุกคลานมาจนแทบกระอักตายก็เป็นได้ 

อย่ามองผู้อื่นเป็นคนที่ด้อยกว่าเราไปทุกคน  เลิกยกตัวเองข่มคนอื่นเสียที  เพราะความจริงแล้วคุณก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าเขาเลย  หากคุณเป็นอย่างนี้ คงไม่มีใครอยากคบกับคุณแน่  ชีวิตนี้คงหาเพื่อนดีๆยาก 

การมีเพื่อนดีๆ ไว้สักสองสามคน ชีวิตจะมีสีสันมากขึ้นนะ

23.ชีวิตคุณ ความสุขของคุณ มีแต่ตัวคุณเท่านั้นที่สร้างมัน ไม่มีใครบันดาลให้คุณได้

คุณต้องเลือกเอาว่าจะอยู่อย่างมีความสุข หรือจะอยู่แบบอมทุกข์ตลอดไป 

24.จำไว้ว่าคุณควบคุมเหตุการณ์ หรือสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วไปไม่ได้ แต่คุณควบคุมสิ่งที่คุณทำเองได้ ด้วยประสบการณ์ของคุณเอง  หมายความถึงว่า ก่อนจะทำอะไรลงไป ต้องทำอย่างมีสติ

25.เรียนรู้เรื่องใหม่ๆทุกวัน  ฉันอายุมากแล้ว แต่ก็ยังอยากรู้อยากเห็นไม่เลิก ( แต่ไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวของใครนะ) วันที่คุณหยุดเรียนรู้ ชีวิตคงไร้ความหมาย   ขอบคุณระบบอินเตอร์เนต ที่ทำให้เราเรียนรู้ไม่มีจบ

26.คนอื่นเขาจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับตัวคุณ ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับคุณสักหน่อย  

อย่าไปทุกข์ หรือกังวลใจกลัวไปก่อนว่าคนอื่นเขาจะว่าอย่างนั้น อย่างนี้ เลย ทุกข์ใจเปล่าๆ เอาเวลาไปทำประโยชน์อื่นดีกว่า

27. เกิดมามีรูปร่างอย่างไร ก็ต้องภูมิใจกับมัน  อย่ามัวทุกข์ใจเลย  มีเหตุผลเดียวที่จะต้องปรับเปลี่ยนรูปร่างก็คือ ปัญหาด้านสุขภาพ  ซึ่งต้องใช้ความเข้มแข็งของหัวใจเข้ามาช่วย  แต่หากปัญหาที่แก้ไม่ได้ก็ต้องอยู่อย่างมีความสุขกับมันให้ได้  คิดแล้วไม่มีทางแก้ก็ทุกข์ใจไม่เลิก  

 

28. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งดีหรือร้าย เชื่อเถอะว่ามันไม่เป็นอย่างนี้ไปตลอด  อย่าเพิ่งท้อแท้หากอยู่ในช่วงโชคร้าย  รับรองว่าไม่มีใครโชคร้ายซ้ำซาก  ไม่มีคนขี้แพ้ตลอดชาติ สักวันชีวิตมันต้องดีขึ้น อดทน และฝันฝ่ามันไปให้ได้ สู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้

29.อาชีพ หน้าที่การงาน ไม่ดูแลคุณในช่วงที่คุณเจ็บป่วยหรอก 

เพื่อนของคุณ ต่างหากที่จะอยู่ข้างๆคุณ  อย่าทำเพื่อนหายไปนะ  

หาเพื่อนดีๆไว้บ้าง และคุณก็ควรเป็นเพื่อนที่ดีของผู้อื่นด้วย เช่นกัน

30. กำจัดของที่ไม่มีประโยชน์ออกไปจากชีวิตบ้าง แม้มันจะสวยงาม หรือสนุกสนานก็ตาม  บางครั้งเก็บของไว้มากเกินต้องการก็รกบ้าน และเป็นภาระหนักได้เหมือนกัน  อยู่อย่างตัวเบาบ้างก็ดีนะ

31.การอิจฉาริษยา เป็นเรื่องไร้สาระ และเสียเวลามาก แถมยังบั่นทอนสุขภาพจิตตัวเอง วันแล้ววันเล่า   หลายคนมองเห็นแต่ว่าคนอื่นมีทุกสิ่ง  แต่สิ่งที่ตัวเองมีกลับมองไม่เห็น  ลองหันกลับมามองตัวเองบ้างว่า คุณก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย  จงพอใจในสิ่งที่คุณมีเถอะ

32. อย่าเพิ่งหมดหวัง  ไม่มีใครโชคร้ายตลอดชาติ เดี๋ยวสิ่งดีๆก็มาถึงเราเอง   ท้อแท้ได้ เหนื่อยได้ แต่ต้องไม่ยอมแพ้

33. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกแย่ขนาดไหน อย่ามัวจมอยู่ในกองทุกข์เลย  ลุกขึ้นมาแต่งตัวให้สวยงามและออกไปใช้ชีวิตให้สนุกสนานเถอะ  ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะมานั่งเศร้าซึม

ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่สบายด้วยโรคที่รักษาไม่หาย  แต่ต้องชื่นชมที่เธอไม่เคยนอนป่วยร้องครวญครางถึงความโชคร้ายของตัวเอง  ในทางตรงข้าม เธอกลับแต่งตัวสวยงามทุกวัน เพื่อให้คนรอบข้างสบายใจเมื่อได้เห็นคนสวยอย่างเธอ  และบ่อยครั้งที่เธอทำหน้าที่ ปลอบใจและให้กำลังใจคนอื่นที่ไม่ได้เจ็บป่วย

34. อ๊ากซซซซ์์์์....ข้อนี้ตัวใครตัวมันนะ  

ข้อเท็จจริงคือ  เป็นที่รับรองของนักวิทยาศาสตร์แล้วว่า การมีเซ็กส์ที่ดี สามารถทำให้สุขภาพจิต และสุขภาพตัวดีขึ้น  หากใครมีก็อย่าลืมบริหารสุขภาพตามตำราด้วย

สำหรับคนที่ไม่มี ก็ตัวใครตัวมัน  แต่...แม้เราจะไม่มีคู่ เราก็สามารถมีเพื่อนที่เข้าใจอยู่ข้างๆได้ สุขใจพอกันแหละ

 35. นี่เป็นข้อเสียหนึ่งในหลายๆข้อของฉันเลย  น่าดีใจที่คนยุคนี้คุยกับครอบครัวมากขึ้น  สมัยเป็นเด็ก ฉันต้องเขียนจดหมายถึงทางบ้าน  กว่าจะถึงก็หลายวัน แต่ก็ขยันเขียน มาถึงยุคนี้อะไรๆสะดวกสบายมาก  ฉันกลับขี้เ้กียจซะงั้น .....  หวังว่าทุกท่านคงไม่เป็นอย่างฉันนะ

36.สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนนะ  ฉันขอสารภาพว่า ช่วงหนึ่งของชีวิตที่ฉันหมดใจแม้แต่จะสวดมนต์ก่อนนอน  มันเป็นช่วงที่ฉันสูญเสียทั้งเตี่ยและแม่ รู้สึกเหมือนคุณพระคุณเจ้าช่างใจร้ายกับฉันเสียจริง  อีกมุมหนึ่งก็สำนึกได้ว่า เราอาจจะขอท่านมากเกินไปรึเปล่า   มันเป็นการขอในสิ่งที่ท่านให้เราไม่ได้ แล้วเราจะมาเสียใจโกรธเคืองโชคชะตาทำไม 

คิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้นมากราบ และสวดมนต์ก่อนนอนต่อไปทุกครั้ง  โดยไม่ลืมที่จะขอบคุณที่ท่านช่วยคุ้มครองเราและคนในครอบครัวให้มีสุขภาพดี  มีชีวิตที่ปลอดภัย

37.เชื่อเถอะว่า ไม่มีใครโชคดีมีความสุขเท่าคุณอีกแล้ว อย่าเครียดไปหน่อยเลย 

หลายครั้งที่ฉันเห็นคนที่โชคร้ายมีสุขภาพและร่างกายไม่แข็งแรง  ฉันจะยกมือขึ้นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครอง  และขอบคุณที่ประทานความโชคดีมีชีวิตที่ไม่เจ็บป่วยให้แก่ฉัน 

38. คุณมีโอกาสมีชีวิตอยู่ได้ครั้งเดียวเท่านั้น ( อย่าเชื่อเรื่องชาติหน้าเลย ไม่มีจริงหรอก)  จงอยู่อย่างมีความสุข ทำในสิ่งที่ดีที่สุดต่อตัวคุณ และคนรอบข้างเถอะ

39.ข้อนี้เหมือนข้อข้างบน  ที่บอกว่าชีวิตของเราทุกคนเป็นของสวยงาม จงใช้มันอย่างมีความสุข สนุกสนานเถอะ  ( เลิกเครียดซะที)

40.ที่จริงข้อที่ 40 ซึ่งเป็นข้อสุดท้ายเขาบอกให้ส่งข้อความทั้งหมดนี้ไปให้เพื่อนที่รักและมีค่าสำหรับเรา  ซึ่งฉันก็เลือกส่งให้ทุกท่านด้วยวิธีนี้  ขอให้มีความสุขทุกคืนทุกวัน ทุกคนค่ะ

ป.ล.

ฉันใช้เวลาเขียนคำรำพึงรำพันใต้รูปนี้อยู่หลายวัน วันที่ขยันก็ลุกขึ้นมาเขียน เหนื่อยก็หยุดพักตามอารมณ์

หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้คงนึกในใจว่า 

" หล่อนช่างเก่งเสียจริง รู้ไปหมด สงสัยว่าจะทำได้หรือเปล่านะ" 

ตอบได้เลยว่า ทำไม่ได้ทุกข้อ  เพราะยังมีนิสัยเสียๆอยู่หลายประการ 

แต่สิ่งหนึ่งที่ภูมิใจในตัวเองคือ  ฉันโชคดีที่มี ที่พบ ข้อคิดดีๆไว้เตือนใจ 

และแม้ฉันจะอยู่ในวัยที่ควรจะพักผ่อนอยู่กับนิสัยเสียๆของฉันได้แล้ว

แต่ฉันก็ยังมีความพยายามที่จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นบ้าง

ทั้งหมดที่อยู่ในหน้านี้ ไม่ใช่คำสอน เป็นเพียงข้อคิดดีๆที่ฉันอยากให้เพื่อนๆรู้จึงนำมาบอกต่อ 

และสิ่งที่ฉันเขียนต่อท้ายรูป เป็นเพียงความคิดเห็น คำรำพันส่วนตัวที่อาจจะไม่ตรงกับความคิดของบางท่าน ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดกัน โปรดอย่านำไปอ้างอิง  แค่อ่านเพลินๆก็พอใจแล้ว  หากส่วนใดใช้ประโยชน์ได้  ฉันก็จะดีใจและมีความสุขมาก

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันปีใหม่ ที่กำลังจะมาถึงนี้ 

ขอให้คุณพระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองให้ท่านและครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งกายและใจตลอดปี 2555 นี้ และ ตลอดไป 

                                                               LIly Huahin