บ้านป้าLily หลังนี้เปิดไว้เพื่อให้เป็นที่ที่เพื่อนๆมานั่งตั้งวงคุยกันด้วยเรื่องที่เราชอบ
โดยมีป้า Lily มานั่งเล่าเรื่องที่ดีมีประโยชน์ แถมสนุกสนานให้ฟังอีก
วันที่ท้องฟ้าสดใสในเวลาแดดร่มลมตกไม่มีอะไรดีไปกว่าการมานั่งที่ ชานเรือนของบ้านป้าLily อีกแล้ว


ยินดีต้อนรับทุกท่านจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

5 เรื่องที่คนใกล้ตายเสียใจ...ที่ทำ และ ไม่ได้ทำ



ไม่นานมานี้  ได้รับเมล์จากรุ่นน้องคนสนิทท่านหนึ่ง  เนื้อหาของจดหมายทำให้ต้องหันกลับมามองตัวเองว่า  ฉันได้รับจดหมายนี้ช้าไปหรือไม่  ทบทวนดูแล้วรู้สึกโล่งอกว่า  ใน 5 ข้อที่กล่าวไว้ในจดหมาย มีบางข้อได้ทำไปแล้ว แต่บางข้อเพิ่งเริ่มทำ  พอสรุปได้ว่า  ฉันอยู่ในเขตปลอดภัย 

เมื่อจบจากดูตัวเอง  ก็คิดได้ว่า น่าจะส่งให้เพื่อนๆ และผู้ที่ผ่านไปมาได้อ่านบ้าง  อย่างน้อยคนที่อยากมีความสุขในชีวิต และกำลังมองหาหนทาง จะได้นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์  ดิฉันทำแล้ว และมีความสุขมาก  คุณล่ะ.......................................................................



5 เรื่องที่คนใกล้ตายเสียใจ...ที่ทำ และ ไม่ได้ทำ

คนเรารู้สึก เสียใจ กับเรื่องอะไรบ้าง ก่อนเสียชีวิต?

หนังสือขายดีใน Amazon เล่มหนึ่ง ชื่อว่า "The Top Five Regrets of the  Dying" เขียนโดย Bronnie Ware ซึ่งเป็นคนดูแลผู้ป่วยที่รู้ตัวว่ากำลังจะเสียชีวิตและกลับไปอยู่ที่บ้านเพื่อรอวันตาย โดยเธอจะอยู่กับผู้ป่วยเหล่านี้ในช่วงสามถึงสิบสองสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิต ในช่วงเวลาดังกล่าว เธอได้มีโอกาสพูดคุยและรับฟังความในใจของผู้ป่วยเหล่านี้


เมื่อถามถึงสิ่งที่เสียใจหรือสิ่งใดๆ ก็ตามที่อยากจะย้อนอดีตไปเปลี่ยนแปลงนั้น เธอพบว่ามีอยู่ห้าประเด็นหลักๆ







ประเด็นแรก พวกเขาน่าจะใช้ชีวิตตามความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง มากกว่าตามความคาดหวังของคนอื่น..............
(I wish I’d had the courage to live a life true to myself, not the life others expected of me.)


เกือบทุกคนที่กำลังจะเสียชีวิตจะพูดถึงประเด็นนี้
เมื่อพวกเขารู้ตัวว่าชีวิตได้ล่วงเลยมาจนถึงขั้นนี้แล้ว
และย้อนกลับไปมองอดีต 

เขาจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าอะไรที่อยากทำ
อะไรที่ได้ทำ และอะไรที่ยังไม่ได้ทำ กว่าพวกเขาจะรู้สึกว่า
มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่ควรจะเดินตามความฝันของตัวเอง
หรืออย่างน้อยก็แค่พยายาม มันก็สายเกินไป
สุขภาพของพวกเขาเอาอิสรภาพในการตัดสินใจทำไปจากพวกเขาแล้ว
และก็ไม่มีวันจะคืนให้เขาอีกต่อไป





ประเด็นที่สอง พวกเขาจะไม่ทำงานหนัก 
(I wish I didn’t work so hard.)

งานหนักที่พวกเขาเคยรู้สึกว่าไม่ทำไม่ได้นั้น พาพวกเขาออกห่างจากชีวิตส่วนตัว ลูกๆ ครอบครัว และคนสำคัญของชีวิต 
พวกเขาไขว่คว้าและวิ่งตามแต่เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ
หรือแม้กระทั่งการยอมรับจากคนที่อยู่นอกวงกลมของชีวิต
โดยที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าตัวเองทำอย่างนั้น

พวกเขาคิดว่าพวกเขาน่าจะมีตารางเวลาที่ดี แสวงหาเงินทอง ชื่อเสียง หรือเกียรติยศเท่าที่พอเพียง และแบ่งเวลาไปให้กับชีวิตส่วนตัว ลูกๆ ครอบครัว และคนสำคัญของชีวิต 
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อพวกเขาหมดลมหายใจ
จะไม่มีอะไรที่ติดตัวพวกเขาไปเลยสักอย่างเดียว

ประเด็นที่สาม พวกเขาน่าจะกล้าแสดงความรู้สึกของตัวเองให้มากกว่านี้ 
(I wish I had the courage to express my feelings.)

คนจำนวนมากเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ข้างใน 
เพราะเกรงใจ เพราะกลัวคนจะว่า เพราะกลัวจะไปขัดใจคนอื่น แต่ความรู้สึกเหล่านั้นจะนำมาซึ่งความเครียด และความรู้สึกไม่ดีกับตัวเองในภายหลัง 
นอกจากนี้ความต้องการแสดงความรู้สึกของตัวเองไม่ได้มีเฉพาะด้านลบเท่านั้น พวกเขายังไม่แทบจะไม่ได้แสดงความรู้สึกดีดีออกไปให้บางคนที่ได้รับรู้ในสถานการณ์นั้นๆ 
เมื่อเวลาผ่านมา จนถึงที่พวกเขากำลังจะเสียชีวิต หลายคนก็เสียชีวิตไปก่อนเขา
และหลายครั้งมันก็เลยสถานการณ์นั้นๆมานานแล้ว  หากพวกเขาได้แสดงความต้องการออกไปอย่างที่ตัวเองรู้สึก ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีนั้น จะทำให้พวกเขาไม่มีอะไรค้างคาอยู่ในใจ
ทั้งยังรู้สึกดีกับตัวเองมากกว่านี้ และเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

ประเด็นที่สี่ พวกเขาจะอยู่กับเพื่อนเก่าๆ ให้นานกว่านี้ 
(I wish I had stayed in touch with my friends.)

บ่อยครั้งที่พวกเขารับรู้ถึงความสุขที่แท้จริงจากการได้อยู่กับเพื่อนเก่าๆ ก็ต่อเมื่อตัวเขาเองกำลังจะเสียชีวิตลง หรือเพื่อนๆ ของเขาเหล่านั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว
ที่ผ่านมา พวกเขาก็ห่างเหินจากเพื่อนเก่าๆ ที่สนิทกันมากๆ ไปเป็นปีๆ และเมื่อพวกเขากำลังจะเสียชีวิต พวกเขาก็รู้สึกเสียใจกับช่วงเวลาที่ผ่านมา
มันอาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ชีวิตอันยุ่งเหยิงจะพาเราออกจากเพื่อนๆ
  
แต่เมื่อเรากำลังจะเสียชีวิตลง พวกเขากลับต้องการเพื่อนๆ พูดคุย เห็นหน้า ดูหนังด้วยกัน ไปเที่ยวกัน  มากกว่าเรื่องอื่นเสียอีก

 ประเด็นที่ห้า พวกเขาน่าจะทำให้ชีวิตมีความสุขมากกว่านี้ 
 (I wish that I had let myself be happier.) 
 
เป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่กำลังจะเสียชีวิตกลับตระหนักว่า ความสุขนั้นอยู่ที่ตัวเราเอง พวกเขาดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ ใช้ชีวิตแบบซ้ำๆ แล้วก็หลอกตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่มันดีอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งก็เพราะกลัวการเปลี่ยนแปลง
หรือไม่ก็ไม่อยากจะลำบากต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อพวกเขากำลังจะเสียชีวิต
และเมื่อย้อนเวลากลับไปนึกถึง พวกเขารู้สึกว่าความสุขในชีวิตนั้น
เกิดจากสิ่งที่เขาเลือก อะไรก็ตามที่ทำอยู่ซ้ำๆ จะไม่ได้ให้อะไรกับชีวิตมากนัก
แต่จุดเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่เป็นไปตามความต้องการของตนเองนั้น
ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว มีความหมายกับชีวิตมากกว่านัก


ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ตระหนักกับทุกๆ วินาทีที่ผ่านไป
เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับพวกเขาเหล่านี้ เราจะได้ไม่เสียใจกับช่วงเวลาที่ผ่านไป

Blue Balloon 
 
 I have a blue balloon, a happy tune.
Long enough to last me all thro' the afternoon,
I have the " New York Times", fourteen dimes,
The explanation of the most profound nursery rhymes.

* Before the rivers run dry, before the last sad goodbye

Let's be kind to one another we can try.
So don't just throw your love about it's not too late to find out
Before the sand has all run out of the hourglass.

The carnival is here, the clowns appear

Plastic painted people hold each other near,
Hopes are always high they echo off the sky, when it's over
There's just the lonely sound of goodbye. *

Too late to hide it now, it's all around us now,

Oh, how I want you girl, to lie beside me now,
While there still is time, and all my poems still rhyme
Let me love you now, we can drink the good good wine.
So don't just throw your love about, you and me,
Hey, let's find out
Before the sand has all run out of the hourglass.





2 ความคิดเห็น:

  1. น่าจะอยู่ในเขตปลอดภัยเหมือนกัน แต่คงน้อยกว่าของป้า Lily ค่ะ

    ตอบลบ
  2. ยินดีด้วยจ้า....ชีวิตเป็นของเรา อยู่ให้มีความสุข...

    ตอบลบ