บ้านป้าLily หลังนี้เปิดไว้เพื่อให้เป็นที่ที่เพื่อนๆมานั่งตั้งวงคุยกันด้วยเรื่องที่เราชอบ
โดยมีป้า Lily มานั่งเล่าเรื่องที่ดีมีประโยชน์ แถมสนุกสนานให้ฟังอีก
วันที่ท้องฟ้าสดใสในเวลาแดดร่มลมตกไม่มีอะไรดีไปกว่าการมานั่งที่ ชานเรือนของบ้านป้าLily อีกแล้ว


ยินดีต้อนรับทุกท่านจ๊ะ

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

โหย่ว หยวน - ฟ้าลิขิต


คำภาษาจีนที่อ่านว่า " โหย่ว หยวน" แปลว่า  Destiny  คนไทยอาจเรียกว่า พรหมลิขิต โชคชะตา ฟ้าลิขิต   แต่คนจีนใช้สำนวนว่า  " มีวาสนาต่อกัน "  อย่างไรก็ตาม ความหมายตามความรู้สึกคือ การที่ได้ทำอะไร หรือพบใครสักคน อย่างบังเอิญ 
สำหรับฉัน สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่สามารถใช้ความว่า "อย่างบัญเอิญ" ต้องใช้คำว่า " ไม่มีเหตุผล อธิบายได้" จึงจะถูกต้อง ณ วันนี้คงต้องเชื่อเรื่องฟ้าลิขิตแล้วล่ะ
สามปีที่ผ่านมา  หลายคน รวมทั้งตัวฉัน ก็ประหลาดใจกับการลุกขึ้นมาตามหารากเหง้าของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง  ดูๆแล้วมันช่างไม่มีที่มาที่ไป  ไม่มีแรงผลักดัน ไม่มีคำร้องขอ หรือบังคับ  แต่เมื่ออยากทำ ฉันก็กระโดดขึ้นเครื่องบิน แล้วตระเวนตามหาบ้านบรรพบุรุษของเรา จนเจอ 
จากนั้น  ฉันก็ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องกลับไปแสดงความกตัญญูต่อดวงวิญญานของต้นตระกูลทุกปี  หากมิใช่ฟ้าลิขิตแล้ว จะมีคำใดมาอธิบายสิ่งนี้ได้หรือ .....


เรื่องราวการตามหาบรรพบุรุษ อ่านได้ที่
http://palilyhuahin.wordpress.com/




ปี 2555 เป็นปีที่ 3 แล้วที่ฉันไปไหว้บรรพบุรุษที่เกาะไหหลำ  แม้การเดินทางจะไม่สะดวกนัก  เพราะฉันและพี่น้อง ไปกันด้วยตัวเอง (โดยมิได้ซื้อทัวร์แบบเครื่องบินเช่าเหมาลำ)  แต่เราก็ยังคงถือเอาการเดินทางทุกครั้งเป็นการผจญภัยที่น่าสนุกสนานของเรา 
ครั้งนี้ เราถึงสนามบินเหม่ยหลาน เมืองไหเค๊า เกาะไหหลำในเวลาเที่ยงคืน เรียกว่าใช้เวลาเดินทางกันเป็นวัน จากนั้นเราก็รีบเข้านอนเอาช่วงดึกมาก และต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยังบ้านบรรพบุรุษ

วันรุ่งขึ้น ความตั้งใจแรกอยากจะไปกินขนมจีนไหหลำ  แต่บางคนไม่ชอบจึงต้องเปลี่ยนใจ เป็นอาหารเช้าของโรงแรม  อาหารเช้าของเราเป็นอาหารที่หน้าตาคุ้นๆ  เพราะแม้จะเป็นอาหารไหหลำ แต่เราก็เห็นมาตั้งแต่เด็กหลายอย่าง
(ที่ต้องนำเอารูปอาหารไหหลำมานำเสนอ เพราะตั้งแต่เริ่มทำบล็อกนี้มา  จะพบว่ามีคนค้นหา "อาหารไหหลำ" จำนวนมาก คิดว่าคงมีหลายท่านอยากทราบเรื่องนี้) 

เริ่มด้วย ไข่ต้มใบชา คล้ายไข่พะโล้ แต่ไม่ปอกเปลือก สีของน้ำที่ต้มจะแทรกไปตามรอยแตกของเปลือกไข่ เมื่อปอกเปลือกไข่ออกมา ไข่จะมีลวดลายสวยงาม  รสเค็มๆ หวานนิดๆ แต่กลิ่นเครื่องเทศหอมเข้าไปถึงเนื้อไข่ทีเดียว

หลายท่านคงแปลกใจที่ในโรงแรม 4 ดาวมีมันเทศ และเผือกต้ม  เป็นอาหารเช้าด้วยหรือ  ขอเรียนให้ทราบว่า เนื่องจากเป็นอาหารประจำของคนไหหลำ  จึงไม่ใช่เรื่องแปลก และด้วยความสงสัย หลานชายของฉันจึง รีบหยิบมากินด้วยความอยากรู้ว่า รสชาติเหมือนมันบ้านเราหรือไม่

ตีนไก่พะโล้ ของคู่เมืองไหหลำ ที่หลานชายของฉัน ติดใจหนักหนา

เกี๊ยวนึ่ง ข้่างในเป็นไส้ผักกะหล่ำ กินกับจิ๊กโฉ่ว อร่อยดี

หากเพื่อนๆเคยไปทานก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ที่อำเภอท่ายาง จ.เพชรบุรี จะคุ้นกับก๋วยเตี๋ยวหน้าตาแบบนี้ 
เพราะเจ้าของร้านเป็นคนไหหลำ  จึงทำผัดไทยมาเหมือนที่ไหหลำ  ส่วนรสชาติ ที่นี่จะหวานน้อยกว่ามาก มีเพียงรสเค็ม แต่ฉันก็ชอบตรงที่เส้น เป็นเส้นสดที่ขนาดเหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านท่ายางของฉันมาก

ข้าวต้มถั่วเขียว เห็นแล้วนึกถึงข้าวที่สมัยรุ่นเตี่ยของฉันเป็นเด็ก
เนื่องจากพวกเราจนมาก ย่าจึงต้องต้มข้าวต้มปนมัน ปนเผือก หรือหัวไชเท้า  ให้ลูกๆกิน  แต่นี่ยังมิใช่สิ่งที่แย่ที่สุดของครอบครัวเรา เพราะที่แย่กว่านั้นคือ การหุงข้าวผสมกับกล้วยดิบที่เก็บมาจากสวนข้างบ้าน  การใส่กล้วยดิบลงไปเพิ่มปริมาณข้าว ทำให้ข้าวทุกมื้อของครอบครัวกลายเป็นข้าวสุกสีดำ 
ก็ต้องภูมิใจว่า  แม้จะกินข้าวดำๆจากยางกล้วย แต่พวกเขาก็สร้างฐานะขึ้นมาจนสามารถเลี้ยงลูกหลานรุ่นฉัน ให้สุขสบายได้ 
ลูกชิ้นกุ้งผัดกับก้านผักเซลารี่
( คือ คื่นช่ายฝรั่ง แต่คนเมืองเพชรเรียกว่า " ผักชีล้อม" )


ไส้กรอกเมืองจีน รสเหมือนกุนเชียง ใช้กินกับข้าวต้มได้

กับข้าวข้าวต้ม เหมือนบ้านเรา

ไข่เค็มที่นี่ไม่ปอกเปลือกให้

หมั่นโถวสารพัดชนิด ที่ฉันชอบมาก เพราะอร่อยที่สุด มีคนบอกว่าในเมืองจีน มั่นโถวไหหลำอร่อยสุด  เพราะเขาผสมกะทิลงไปด้วย ทำให้รสนุ่ม เนื่องจากเกาะไหหลำเป็นพื้นที่เดียวที่ปลูกมะพร้าวได้  ดังนั้นไม่ว่าอะไรที่ใส่กะทิได้ เขาก็จะใส่ลงไป แม้แต่เครื่องดื่มในร้านอาหาร ยังมีน้ำกะทิเสริฟเป็นแก้วเลย

หลังอาหารเช้า เราก็เริ่มเดินทางไปหมู่บ้านที่เป็นที่ตั้งของบ้านต้นตระกูลของเรา  ซึ่งอยู่นอกเมืองไหเค๊าไปประมาณ 1 ชั่วโมง  วันนี้บ้านเมืองใน ไหเค๊า เมืองหลวงของมณฑลไหหลำ ยังมีสภาพไม่ต่างจากปีที่ผ่านมาแต่การก่อสร้างก็ยังคงดำเนินอยู่ไม่หยุด  ในเมืองใหญ่จะเจริญกว่า ต่างจังหวัดบ้านเรามาก แต่ในเมืองเล็กๆรอบนอก ยังไม่เจริญนัก ดูเหมือนว่าบ้านเมืองจะเจริญเร็วจนคนตามไม่ทัน 


ไหหลำเป็นดินแดนที่อยู่ใต้สุดของจีน และเมืองไหเค๊าอยู่เหนือสุดของไหหลำ 

สถานที่ราชการมักจะสร้างให้ใหญ่โตเพื่อความน่าเกรงขาม และอาชีพข้าราชการก็เป็นอาชีพที่ใหญ่โตมาก  ชีวิตของข้าราชการดูจะมีสิทธิพิเศษกว่าอาชีพอื่น

เราใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็ถึงเมืองที่บ้านต้นตระกูลของเราตั้งอยู่  เมืองนี้ชื่อ ตลาดตำโก ( หรือ ซานเจียงในภาษาจีนกลาง)  ซึ่งเป็นตำบลเล็กๆนอกเมืองไหเค๊า สภาพยังไม่เจริญนัก คล้ายตำบลรอบนอกของต่างจังหวัดบ้านเรา
สองปีที่ผ่านมาเมืองนี้กำลังสร้างถนน  ดังนั้นถนนที่เคยเป็นถนนคอนกรีตจึงเป็นแบบนี้สภาพบ้านเมืองมีแต่ฝุ่น

ไม่นานเราก็มาถึงบ้านของ " ดั่น เหม่ง คน"  ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านของเราท่านผู้นี้  เป็นพยานบุคคล คนสำคัญที่ให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูลครอบครัวเราด้วยดีมาตลอด
เนื่องจากปีนี้ คนที่เคยเป็นล่ามให้  ไม่สามารถมาช่วยเราได้ ปัญหาก็เริ่มขึ้น เพราะสื่อภาษากันไม่รู้เรื่อง ต้องใช้ล่ามที่เขียนเป็นภาษาจีนให้อ่าน  
แต่ก็โชคดีที่ไม่นานนัก ดั่น เหม่ง คน ก็ให้คนไปตามเด็กสาวคนหนึ่งที่เคยทำงานในเมืองไทยมาช่วยเรา  นับว่าโล่งอกไปที
น้องชาย และหลาน กำลังซื้อของไหว้เช็งเม้ง

 หลังจากเตรียมของไหว้เสร็จ 
เราก็เดินทางมายังบ้านของต้นตระกูลของเรา 
มาถึงหน้าบ้าน อาม่า เพื่อนบ้านกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน
 ดีใจที่เรามาคนแก่ที่นี่อายุยืนจริงๆ
บ้านของเรามีอายุ 130 ปี สร้างด้วยหิน ทุกส่วนของบ้านยังคงเป็นของเดิม บ้านนี้ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 60 ปี คนสุดท้ายที่อยู่ที่นี่คือ ย่าเมืองจีน  ท่านเสียชีวิตที่นี่ 2 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

สภาพบ้านปีนี้ โทรมลงจากปีที่ผ่านมามาก
อาจเป็นเพราะโดนพายุในช่วงฤดูฝนปีที่แล้ว
บ้านถูกเก็บรักษาไว้โดยเพื่อนบ้าน เพื่อรอให้ลูกหลานกลับมาอยู่ เพื่อนบ้านบางคนพยายามชี้ให้เราดู และบอกถึงเรื่องนี้ แต่เราก็ไม่เข้าใจมากนัก รู้ได้จากสีหน้าและอาการของเขาว่าเขาอยากให้เราซ่อมบ้าน เราก็ได้แต่ยิ้ม

เตรียมไหว้

เครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษของเรา หากอยู่เมืองไทย 
คงโดนนินทาว่ายากไร้เสียจริง 


แต่วันที่เราไปไหว้ก็ได้บอกบรรพบุรุษ แ้้ล้วว่าของไหว้อาจดูไม่สมเกียรติ์นักแต่ทั้งหมดนี้ลูกได้พยายามอย่างที่สุดแล้วและจะทำต่อไป จนกว่าจะทำไม่ไหว





อาม่าเพื่อนบ้าน ยังสุขภาพดีเหมือนเดิม สังเกตุว่าใส่สร้อยมุขแท้ทุกวัน คนไหหลำเชื่อว่า ไข่มุก ช่วยให้สุขภาพดี (เดี๋ยวต้องใส่บ้างแล้ว)
เพื่อนบ้านดีใจที่ลูกหลานบ้านตระกูลโหงวมาไหว้บรรพบุรุษ

เสร็จจากไหว้บรรพบุรุษที่บ้านต้นตระกูล  เราก็หิวกันมาก แต่ภาระกิจยังไม่จบ ยังมีอีกแห่งซึ่งเป็นต้นตระกูลฝ่ายย่า ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีก 1 ชั่วโมง 
เรารู้ตัวล่วงหน้าแล้วว่า การมาหาหมู่บ้านเป้าหมายนี้ค่อนข้างยาก
เพราะทางลึกลับ สับสนมาก อีกทั้งยังพูดภาษาไหหลำไม่ได้ รับรองว่า มีปัญหารออยู่ข้างหน้าแน่นอน
 เราจึงต้องเติมพลังให้แน่นท้องไว้ก่อนจะได้มีแรงสู้กับปัญหา

ร้านนี้เป็นร้านเดิมที่เรามาทานกันทุกปี  แต่คราวนี้เราไม่มีคนสั่งให้ เพราะคนรู้ภาษาจีนไม่มากับเรา  ดังนั้นเราจึงต้องสั่งกันเอง  คนขับรถ แสดงวิธีการล้างชุดรับประทานอาหารด้วยน้ำชาร้อนๆ  เราจึงทำตามเขา

ชุดเครื่องปรุงน้ำจิ้ม มี ซีอิ้ว เต้าเจี้ยวหวาน พริกดอง ขิงสด
 กระเทียมสด และส้มจี๊ด ใช้แทนมะนาว

 ใครชอบรสไหน ปรุงกันเอง เครื่องปรุงเหมือนบ้านเรามาก
ถั่วคั่วคลุกเกลือ ของจำเป็นบนโต๊ะอาหาร

วันนี้สั่งอาหารไม่ซ้ำกับทุกครั้งที่มา ( เพราะสั่งภาษาจีนไม่เป็น) เลยสั่งถั่วผัดมาแบบมั่วๆ แต่กลับอร่อย  จานนี้เป็นถั่วฝักยาว ผัดกับผักกาดดอง และ หนำเลี๊ยบ ใส่พริกนิดหน่อยขอยกให้เป็นจานอร่อยสุด
เนื้อผัดพริกอ่อน นุ่มอร่อยมาก

สั่งไก่มา 1 ตัว ทางร้านงงๆ สงสัยว่าจะกินหมดหรือ ทางร้านไม่ได้ต้มไว้ หากลูกค้าสั่งก็จะเดินไปจับไก่ในกรงมาเชือดและต้มให้เลย
วันนี้ได้ไก่ตัวโตมาก  ความแตกต่างระหว่างคนไทย กับไหหลำคือ
คนไทยจะกินไก่สาว ต้มสุก เนื้อนุ่ม   แต่คนไหหลำ ชอบกินไก่สูงอายุ ต้มไม่สุก เนื้อเหนียวเคี้ยวมันดี
วันนี้เราไม่มีล่ามที่จะบอกให้ต้มสุกๆหน่อย เลยได้ไก่เนื้อห่ามๆเหนียวพอสมควรแต่เนื้อหวานดีมาก
เจ้าของร้านคงแปลกใจที่คนไทยไม่ยอมสั่งน้ำซุป
จึงพยายามมาถามย้ำแล้ว ย้ำอีก เราจึง โอ เค
ได้ซุปมะเขือเทศมา ซดแก้ฝืดคอ
จานสุดท้าย สั่งตามคำขู่แล้วขู่อีกของหลานชาย ที่อยากกินเหลือเกิน
จานนี้ชื่อเคาหยก เป็นหมูสามชั้นตุ๋นกับผักกาดดอง อร่อยสมใจกินเสร็จรับรองว่า  โคเลสโตรอลพุ่งกระฉูดแน่
อาหารทั้งหมดของเรา คิดราคาแล้วแค่ 1500 บาทไทย ถูกมั๊ก มั๊ก

หลังอาหารกลางวัน เราก็เริ่มต้นการผญจภัย เพราะหลงทางไปไกลมาก ใช้เวลาในการหลงทาง และถามทางเกือบ 2 ชั่วโมง จนเกือบถอดใจ   แต่พอตัดสินใจจะกลับ รถเราก็มาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านอย่างน่าประหลาดใจ  มองจากปากทางเห็นป้ายสุสานเด่นชัดอยู่กลางแสงแดด เป็นภาพที่สวยงามมาก

พวกเราจัดเแจงตั้งเครื่องไหว้ ที่เกือบต้องเอากลับ


เราขอบคุณบรรพบุรุษที่นำทางเรามา หลังจากหลงซะจนเหนื่อย
แต่ละครั้งที่มา มักมีเรื่องประหลาดใจเกิดขึ้นเสมอๆ

ขณะรอไหว้ น้องสาว ก็เดินเอาขนม และของฝากไปแจกเด็กๆ
และเพื่อนบ้าน เด็กๆมีความสุขกันมาก
เสร็จจากภาระกิจการไหว้บรรพบุรุษทั้งสองจุด
เราก็กลับเมืองไหเค๊า ด้วยความโล่งอก 

จุดที่มาเป็นบริเวณท่าเรือเก่า ที่สมัยย่าของฉันมารอเรือสำเภากลับเมืองไทยก็ต้องมาขึ้นเรือที่นี่  ปัจจุบันเขารื้อท่าเรือทำเป็นสวนสาธารณะไปแล้ว 
เมื่อสมัยก่อนหากยื่นอยู่ถนนสายนี้ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส จะมองเห็นทัศนียภาพชายฝั่งทะเล เห็นเรือที่กำลังจะออก มีคนกำลังยกสินค้าลงเรือจากท่า มีการขนถ่ายสินค้าออกจากเรือ มีคนขายปลา ขายอาหารทะเล มีผู้สัญจรไปมา มีคนสารพัดอาชีพเดินผ่านไปมา


มาถึงเมืองไหเค๊าแล้ว เดินไปตามถนนฉางตีเลี้ยวเข้าไปถนนสายตรงที่ปูด้วยแผ่นหินแห่งหนึ่ง จะมองเห็นว่า สองข้างทางเป็น "ฉีโหลว" ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ที่ทำเป็นถนนคนเดินเชื่อมต่ออยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ถนนสายนี้ก็คือถนนเต๋อเซิ่งซา ซึ่งเป็นถนนสายเก่าแก่นับร้อยปีที่ชาวไหเค๊ารู้จักกันทุกคน
      เดินตามถนนเต๋อเซิ่งซาชม "ฉีโหลว" ที่ สร้างขึ้นเมื่อทศวรรษ 1920-1930 ที่นี่เต็มไปด้วยฝูงชนที่แออัด ให้ความรู้สึกราวกับย้อนกลับไปอยู่ในยุคสมัยโบราณ ถนนสายเก่าแก่นับร้อยปีที่สะท้อนให้เห็นสภาพการเปลี่ยนแปลงของเมืองไหเค๊า 
ถนนสายนี้เป็นที่ภาคภูิมิใจของชาวไหเค๊ามาโดยตลอด และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากท้องที่ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มา เที่ยวชมไม่เคยว่างเว้น


สมัยที่ย่าของฉัน เดินทางมารอเรือสำเภากลับเมืองไทย  ท่านอุ้มลูก 2 คนมานอนรอเรือที่นี่  ไม่ใช่พักในอาคารนะ  แต่นอนรอบนทางเดินใต้ชายคาอาคารที่เรียกว่า " ฉีโหลว" นี่ล่ะ

ตลอดทางบนถนนเส้นนี้ เราเห็นร้านขายอาหารข้างถนนหลายชนิด ร้านนี้ขายกุ๊ยช่ายทอด มันเทศ และกล้วยทอด กินกับน้ำจิ้มพริกดอง คล้ายๆบ้านเรา  คนขายยังใช้ฟืนในการทอดอยู่เลย


อาหารอีกชนิดที่นิยมมาก ภาษาไหหลำเรียกว่าอะไรไม่ทราบ คล้ายของมาเลเซีย ที่เรียกว่า ซาเต๊ะ ซีหรับ  เป็นการนำเอาอาหารที่ชอบมาเสียบไม้ เช่น ลูกชิ้นปลา เต้าหู้ ปลาหมึก และผักบุ้ง หรือแม้แต่เครื่องในหมู และวัว  ลวกแล้วนำมาจิ้มน้ำจิ้มพริกดอง ร้านแบบนี้มีขายหลายร้านมาก 

เราเดินเที่ยวในตัวเมืองกันจนหมดแรง โดยแวะชิมอาหารที่คุ้นหน้าคุ้นตา แบบไม่เป็นชิ้นเป็นอันจนอิ่ม  จากนั้นจึงรีบเข้านอนเพราะต้องตื่นเช้า เพื่อไปสนามบิน


เราจองเที่ยวบินไปฮ่องกงเที่ยวเช้า จึงต้องออกจากโรงแรมตั้งแต่ 6 โมง  ตั้งใจจะไปกินอาหารเช้าที่สนามบินเพื่อบินไปฮ่องกงในเวลา 8 โมงเช้า

แต่ปัญหาก็ยังไม่หมด  เรานั่งรอจนเกือบ 8 โมงแล้ว  แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีเจ้าหน้าที่สายการบินมาเปิดเคาน์เตอร์ทำงาน  จนในที่สุดน้องชายของฉันจึงเดินไปถามเจ้าหน้าที่  แต่...เจ้ากรรมที่ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าโชคยังคงช่วยเรา  เพราะ นอกจากกลุ่มเราแล้ว ยังมีผู้โดยสารอีก 2 ท่านซึ่งเป็นชาวจีนอเมริกันอยู่ด้วย 
ปัญหาที่เกิดเนื่องจาก เที่ยวบินของเรามีผู้โดยสารแค่ 6 คน 
สายการบินจึงยกเลิก  โดยให้เราบินอีกทีตอน บ่ายโมง 
ทั้งสองท่านนี้ได้ช่วยอธิบายและต่อสู้กับสายการบินให้  โดยบอกสายการบินให้ปฏิบัติตามข้อตกลงของ IATA  ที่ผู้โดยสารที่ถูกยกเลิกเที่ยวบิน จะต้องได้รับการดูแลอย่างดี 
ในที่สุดคณะของเราและ คนจีนทั้งสองท่านก็สามารถ เข้าพักที่โรงแรมของสนามบิน พร้อมทานอาหารเช้า และ กลางวัน เราจึงต้องลากกระเป๋าไปนอนรอที่โรงแรมอีกครึ่งวัน

เพื่อนร่วมทางชาวจีนผู้นี้คือ คุณลุงจิมมี่ และ ภรรยา ท่านเป็นคนจีนอเมริกัน  มีบ้านทั้งในเซี่ยงไฮ้ และไหหลำ  ทั้งสองท่านได้สอนให้เรารู้จักคำว่า " โหย่ว หยวน" ที่แปลว่า Destiny  ที่แม้เราจะมาจากต่างชาติ ต่างภาษา แต่สิ่งที่ทำให้เรามาพบกันคือโชคชะตา  นับว่าเรามีวาสนาต่อกัน  ท่านทั้งสองนอกจากจะมีความรู้ และมีอารมณ์ขันแล้ว ท่านยังดูแลเรามาตลอดทาง จนถึงฮ่องกง ด้วยความเป็นมิตร

อาหารต่อไปนี้ เป็นอาหารที่โรงแรมของสายการบินฯจัดให้เรา 2 มื้อ

แม้ฉันจะชอบหมั่นโถว ที่เกาะนี้ แต่อาจเป็นเพราะอารมณ์บูดกระมัง ที่ทำให้หมั่นโถวของที่นี่ ไม่เป็นสัปรดเอาเสียเลย

ขนมเค็กชิ้นแรกบนเกาะนี้ พอแหลกล่าย ( อารมณ์ยังบูดอยู่)

ผักดองเค็ม กินกับข้าวต้ม - ไม่ได้แตะเลย

เฉาก๊วย กินแกล้มข้าวต้ม ที่เละเป็นโจ๊ก ฉันไม่ชอบข้าวต้ม
 เลยกินแต่เฉาก๊วย รสเค็มๆดี

ข้าวต้ม และหรือโจ๊ก ที่จืดสนิท


อาหารมื้อกลางวัน 

ต้องขอชมอาหารกลางวันที่นี่ว่าจัดมาเป็นแบบบ้านๆไม่เหมือนอาหารตามร้านอาหารในเมือง   ทุกชนิดทานแล้วคิดถึงช่วงตอนเป็นเด็กมากๆ
คิดไม่ถึงว่าในโรงแรมที่ เป็นที่พักของนักบิน และลูกเรือ จะมีอาหารบ้านๆอย่างนี้ไว้บริการ สังเกตุดูว่าทุกโต๊ะ ทั้งแขกที่พัก  นักบิน ลูกเรือ  และกลุ่มเรา ทานเหมือนกันหมด


ซุปสาหร่ายทะเล กับกระดูกหมู

ผักกาดขาวผัดกับหมูสามชั้น

กุ้งต้มเกลือ กุ้งตัวเล็กเนื้อกรอบหวาน คนไหหลำกินกันทั้งเปลือกเลย

จานนี้อร่อยมาก ถูกใจจริงๆ ถั่วฝักยาวผัดหมูสามชั้น 

นี่คือฟักผัดกุ้งแห้ง  บ้านฉันเรียกฟักว่า แฟง  อาหารชนิดนี้ตอนเป็นเด็กบ้านย่าขอฉันทำบ่อย  รสของแฟงโดดเด่นออกมามาก

พอเห็นฟักทองผัดก็ดีใจ เพราะเป็นอาหารที่ชอบมาตั้งแต่เด็ก  บ้านเราผัดใส่ไข่ แต่ที่นี่ผัดแบบธรรมชาติมาก สามารถได้รสหวานของฟักทองอย่างเด่นชัด

เป็ดต้มซีอิ้ว ที่สับมาพร้อมกระดูก ที่เกาะไหหลำ นอกจากอาหารทะเล และไก่บุ้นเซียวแล้ว ยังมีเนื้อสัตว์ที่มีชื่อเสียงอีกคือ แพะดังตัว  เป็ดกาเจก และ หมูพันธุ์ไหหลำที่มีชื่อเสียงมาก

หลังจากทานอาหารฟรี 2 มื้ออย่างไม่เต็มใจ ในที่สุดเราก็บินไปฮ่องกงได้อย่างเรียบร้อย นับเป็นการเดินทางที่ทั้งลำบากและสนุก ความลำบากนี้ไม่สามารถทำให้เราท้อถอยหรือเลิกล้มความตั้งใจที่จะมาอีกไปได้  แต่กลับยิ่งทำให้เรามีความพยายามเพิ่มขึ้น


 สิ่งที่เกิดขึ้นกับการเดินทางของฉันครั้งนี้  ทั้งๆที่รู้ว่ามีอุปสรรค์ รออยู่ข้างหน้า แต่ด้วยความโชคดีอย่างประหลาดที่ทำให้มีคนเข้ามาช่วยเราตลอดทาง อย่างนี้ยังไม่เชื่อฟ้าลิขิตอีกหรือ