บ้านป้าLily หลังนี้เปิดไว้เพื่อให้เป็นที่ที่เพื่อนๆมานั่งตั้งวงคุยกันด้วยเรื่องที่เราชอบ
โดยมีป้า Lily มานั่งเล่าเรื่องที่ดีมีประโยชน์ แถมสนุกสนานให้ฟังอีก
วันที่ท้องฟ้าสดใสในเวลาแดดร่มลมตกไม่มีอะไรดีไปกว่าการมานั่งที่ ชานเรือนของบ้านป้าLily อีกแล้ว


ยินดีต้อนรับทุกท่านจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

อร่อย....ที่เซี่ยงไฮ้

เมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา ได้ไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ ทานอาหารอร่อยทุกมื้อ
อาหารที่เขาจัดให้เหมือนกับโต๊ะจีนระดับดีของเรา
รสชาติใช้ได้
โดยเฉพาะอาหารเสฉวน ที่รสจัดจ้านถูกปากคนไทย และจัดให้ทานในเวลาที่เหมาะ
คือวันท้ายๆที่เรากำลังอยากทานอาหารรสเผ็ด อยู่พอดี
การถ่ายรูปอาหารของอิฉันค่อนข้างจะเป็นการรบกวนสมาชิกในโต๊ะสักหน่อย
เพราะทุกมื้อเราก็หิวตาลายกันมา แต่ยังทานไม่ได้เพราะอิฉันยังไม่อนุญาติ

สงสัยคราวหน้าคงไม่มีใครชวนให้ไปด้วยอีกแล้ว

รูปที่ขึ้นเวบคราวนี้ ไม่ได้นำมาทุกรูป เพราะบางมื้อ อาหารก็ซ้ำกัน โดยทุกมื้อจะมี
ไก่
หมูพะโล้ ( ของชอบ = You are what you eat ) ผัดผัก และ เสี่ยวหลงเปา
ที่ขาดไม่ได้คือปลา จำพวกปลานึ่ง ปลาทอด มีทุกมื้อ แต่อิฉันถ่ายไม่ค่อยทัน

เพราะมีสมาชิกท่านหนึ่ง ชอบทานปลาเป็นพิเศษ เวลาอิฉันตั้งกล้องจะถ่าย
ท่านก็จ้วงปลาลงไปแล้วบ่อยๆ เลยต้องปล่อยเลยตามเลย

คำเตือน รูปที่จะดูต่อไปนี้ออกจะเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่กำลังลดความอ้วนสักหน่อย
หากใจไม่แข็งพอ อย่าดูเด็ดขาดเจ้าค่ะ

จานแรกเป็นไข่เจียว หลายท่านคงสงสัยว่าเอามาให้ดูทำไม

ที่นำมาเพราะอยากให้เห็นว่าทางทัวร์เขาก็พยายามเอาใจลูกทัวร์

ซึ่งบางท่านอาจมีปัญหาเรื่องอาหาร อย่างเช่นอิฉันที่ทานเป็นบางอย่าง

ไม่ทานก็หลายอย่าง ( เรื่องมากพอสมควร)

จึงมีไข่เจียวไว้กันเหนียวทุกมื้อ แต่มื้อนี้พิเศษสุด เพราะเป็นไข่เจียวที่บางที่สุดในโลก

ส่งไปลงกินเนสบุ๊ก เรคคอร์ต ได้เลย


จานนี้อร่อยมาก เป็นเต้าหู้ทอด ผัดกับพริกหวาน ถูกใจอิฉันจังเลย


จานนี้ดูเป็นไก่ซีอิ้วธรรมดา แต่รสชาติดีมาก ขอบอก


อันนี้ซิแปลกจัง เป็นหอยหลอดอบวุ้นเส้น เดี๋ยวจะลองทำกินดูบ้าง


จานธรรมด๊า ธรรมดา แต่ช่วยชีวิตอิฉันไว้ได้คือ ผัดผักกับข้าวโพดหวาน งั่ม งั่ม


จานนี้สุดยอดประทับใจ อิฉันชอบมาก ถึงมากที่สุด ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนราดซีอิ้ว

หวานๆเค็มๆ กลับมาทำทานสองครั้งแล้วเจ้าค่ะ


ลองทายซิ ว่านี่คืออะไร ตอนทางร้านยกมาเสริฟ ทุกคนในโต๊ะก็งง ๆๆๆ


และแล้วความจริงก็ปรากฏ เป็นหมั่นโถวสีน้ำตาล ที่ทำหลุมตรงกลางก็เพื่อใส่ไส้ เป็นถั่วผัดพริก อร่อยเริ่ดค๊าาา


จานนีซิเลิศเหมือนกัน กุ้งทอดเกลือพร้อมกับเกล็ดขนมปัง เค็มๆดีอร่อยให้สี่ดาวเลย


ดูจานนี้ซิเจ้าคะ หอยเชลล์อบกระเทียมใส่วุ้นเส้น ช่างคิด ช่างทำจัง จานนี้จะเป็นเมนูต่อไปของอิฉันค่ะ


ตัวนี้เป็นไก่ขอทานเจ้าค่ะ เราเลยทานกันไม่เหลือ


ปูผัดพริกเผา เขาก็มีนะ


เต้าหู้ผัด ของโปรดของอิฉัน


จานนี้แปลกมาก เหมือนเป็นอาหารทานเล่น กุ้งกรอบผัดข้าวพอง อร่อยสุดๆ


อ้าว รูปซ้ำ เอ๊ยไม่ใช่ สั่งมาเพิ่มอีกจานตั่งหาก....

กุ้งมังกรทอด เสริฟกับเส้นหมี่ทอดกรอบ มีหัวและหางกุ้งมา สำแดงเป็นการยืนยัน

ความสงสัยในกุ้งปลอมจึงไม่มีเจ้าค่ะ


ไก่น้ำแดง มีผักแนมมาด้วย รสชาติไม่ต้องพูดถึง อร่อยค่ะ


นี่ก็เป็นหมั่นโถว คนจีนแถบนี้จะทานหมั่นโถวกับผัดพริก

เพียงแต่เปลี่ยนรูปร่างตัวแป้งไป จานนี้เป็นแบบแบน แต่ผ่าครึ่งไว้ใส่ไส้ค่ะ


หมูสามชั้นพะโล้ ผัดกับมันเทศ หรือมันฝรั่ง ถูกใจอิฉันจริงๆ


ตามธรรมเนียมของอาหารจีนจะมีซุปทุกมื้อ ส่วนใหญ่เป็นซุปใส ธรรมดาๆ

แต่ซุปโถนี้ มาแปลก เป็นซุปสาหร่ายเส้นผม กับกุ้งฝอย


ปลาแดง เจ้าค่ะ เป็นปลาราดซ๊อสสีแดงจัด รสเปรี้ยวหวาน เรียกปลาเปรี้ยวหวานน่าจะถูก ส่วนรส

อิฉันชิมแต่ซ๊อส เพราะไม่ชอบปลาแต่ก็ไม่เหลือ แปลว่าอร่อยค่ะ


ที่หมู่บ้านจูเจีย เจี่ยว มีขาหมูที่มีชื่อเสียงมาก เขาใช้ใบปอพันรอบแล้วมัดด้วยเชือกปอ

ก่อนจะนำไปเคี่ยวให้นุ่มเปื่อย หอมใบปอ รสหวานถูกใจจริงๆ เดินผ่านร้านขาย เลยถ่ายรูปมาให้ดู


ที่เมือง จ.จ.จ. แห่งนี้ พอถึงเวลาอาหารกลางวัน เราก็ได้พบกับขาหมูของเด่นของเมือง

เขาทำเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ แต่ก็ยังคงห่อด้วยใบปอเช่นเดิม เป็นขาหมูที่มีเสน่ห์อย่างยิ่ง


และอีกจานของเมือง จ.จ.จ. คือหอยโข่งผัด รสดีมาก สมาชิกหลายท่านชอบที่จะดูดดังจุ๊บๆ

ส่วนอิฉันขอใช้ส้อมแคะออกมาเจ้าค่ะ



มีใครเคยทานถั่วปากอ้าสดๆ บ้างไหม ที่เมืองนี้เขาผัดถั่วสดๆมาให้ทาน

อร่อยดีเปลือกเหนียวนิดๆ กรุปๆกรอบๆ


ออกจากร้านอาหาร เห็นคนถือไม้เสียบอะไรแดงๆ เดินทานมา เลยแวะไปดูที่ร้าน

เป็นผลไม้สดเสียบไม้ แล้วชุบด้วยเยลลี่ หน้าตาน่าทาน แต่ไม่มีโอกาสชิม

เพราะกลัวท้องเสีย นับเป็นไอเดียที่ดีทีเดียว


วันนี้มาเจอไข่ตุ๋นขวัญใจของอิฉันอีกแล้ว แต่มีอ๊อฟชั่นพิเศษ คือมีหอยลายเสียบมาด้วย เริ่ด....ค๊าา


มื้อนี้ที่ทะเลสาบซีหู ทุกคนจะได้รับถ้วยเล็กๆใส่หมูสามชั้น หน้าตาคล้ายหมูพะโล้ คนละถ้วย

ลองชิมดูอร่อยและหอม เขาเรียกหมูนี้ว่า " หมูตงโพ" เป็นอาหารในตำนานของเมืองหังโจว

โดยตั้งชื่อตามขุนนางที่ชื่อ ซูตงโพ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการขุดทะเลสาบซีหู

ขุนนางผู้นี้เป็นผู้ที่มีจิตใจดี ชาวบ้านจึงนำหมูมาให้บ่อย ท่านเห็นว่ามีหมูสดมาก

หากกินไม่หมดหมูก็จะเน่าเสีย จึงให้ลูกน้องนำไปต้มเป็นพะโล้ แล้วตากให้แห้ง จะได้เก็บไว้กินนานๆ

จากนั้นก็แจกจ่ายหมูที่ทำเป็นอาหารแล้วนี้กลับไปให้ชาวบ้านกินอีก ผู้คนในเมืองหังโจว

จึงเรียกอาหารชนิดนี้ว่า " หมูตงโพ" และทำกินกันต่อๆมาจนเป็นอาหารประจำของเมือง


จานนี้เป็นไก่นึ่ง หรือไก่ตุ๋นที่ห่อด้วยใบไม้คล้ายใบองุ่น รสเบาๆไม่จัดจ้าน ทานแล้วชื่นใจดี


วันสุดท้ายที่เมืองหังโจว เราได้ทานปูขน ซึ่งเป็นอาหารจานเด่นของเมือง

เป็นปูที่อร่อยและแพงมากเจ้าค่ะ


บางคนไม่แน่ใจว่าใช่ปูขนจริงหรือไม่ เลยถ่ายใกล้ๆ เป็นอันว่าเป็นของแท้ ความสงสัยในปูขนจึงไม่มีเจ้าค่ะ


จานนี้เป็นปลานึ่ง ตัวน่าสงสาร เป็นปลาตัวเดียวที่รอดจากมือสมาชิกคนชอบปลา

มาถึงมืออิฉันเพื่อถ่ายรูปแบบสมบูรณ์ทั้งตัว


ขอปิดครัวด้วยจานที่ ชอบที่สุดคือ หมั่นโถวทอด ทานกับผัดเผ็ดถั่ว แบบเสฉวน
ที่ทำให้ต้องไปเรียนวิธีทำหมั่นโถวบ้างแล้ว เพราะติดใจเหลือเกิน

หวังว่าอาหารที่นำมาฝากจากเมืองจีนชุดนี้คงถูกใจทุกท่านนะคะ

สำหรับอิฉัน " อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบเจ้าค่ะ"